เริ่มปี 2566 มายังไม่ทันไร ก็มีบริษัทคริปโตรายใหญ่ประกาศปลดพนักงานของตนติด ๆ กันแล้ว 2 แห่ง ซึ่งบริษัท 2 แห่งดังกล่าวนั้นได้แก่ Coinbase และ Huobi โดยทางด้าน Coinbase ประกาศเตรียมลดพนักงานไป 20% เพื่อลดค่าใช้จ่ายของบริษัทในช่วง “ฤดูหนาวคริปโต” ที่ลากยาวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว รวมถึงยังเตรียมที่จะปิดบริการในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ในขณะที่ Huobi ก็ประกาศแผนปลดพนักงาน 20% เช่นกันเพื่อปรับโครงสร้างบริษัท โดยชาวคริปโตหลายรายก็มองว่า Huobi ใกล้พบกับจุดจบแล้ว

อีกทั้งก่อนหน้านั้น บริษัทคริปโตอีกหลายแห่งทั้งใหญ่และเล็กต่างก็ได้รับผลกระทบจากฤดูหนาวคริปโตนี้ไปเต็ม ๆ จนต้องปลดพนักงานหรือถึงขั้นต้องยื่นล้มละลายเลยทีเดียว ซึ่งฤดูหนาวคริปโตดังกล่าวก็ดูจะยังไม่จบลงง่าย ๆ และก็อาจมีบริษัทคริปโตที่ได้รับผลกระทบในทำนองเดียวกันนี้อีกในอนาคต โดยนอกจากจะมีผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ทำนองนี้เป็นตัวบริษัทเองและผู้ใช้บริการของบริษัทแล้ว คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนเช่นกันก็คือ พนักงานของบริษัทเหล่านี้นั่นเอง

ด้วยเหตุนี้ บทความนี้จึงจะพาท่านผู้อ่านไปฟังมุมมองของผู้บริหารของบริษัทด้านคริปโตต่าง ๆ เกี่ยวกับคุณสมบัติที่บริษัทคริปโตมองหาในตัวผู้สมัครงานเพื่อให้คนที่ทำงานในสายคริปโตสามารถเอาตัวรอดจากการตกงานในช่วงฤดูหนาวคริปโตอันหนาวเหน็บนี้ไปได้ ซึ่งถ้าหากท่านกำลังทำงานในบริษัทคริปโตอยู่ ขอบอกเลยว่า ท่านจะพลาดอ่านบทความนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด

จงหมกมุ่นกับ Web3 - คำแนะนำแรกนี้มาจาก Nate Holiday ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทผู้ให้บริการที่จัดเก็บข้อมูลกระจายศูนย์อย่าง Space and Time โดยเขากล่าวกับสำนักข่าว TechCrunch ว่า คนที่จะมาทำงานในสายคริปโตจะต้อง “หมกมุ่นกับ Web3” พร้อมกับอธิบายว่า “ถ้าคุณไม่หายใจเข้าและออกเป็น Web3 อุตสาหกรรมนี้ก็อาจไม่ใช่สำหรับคุณ”

ทำประวัติของตัวเองให้ดูโดดเด่น - Aleksi Loytynoja ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Kleoverse แพลตฟอร์มจัดหางานด้านคริปโต กล่าวกับ TechCrunch ว่า ผู้สมัครงานสามารถทำตัวเองให้ดูโดดเด่นได้โดยการนำประวัติการสร้างโปรเจกต์แบบ Open Source มาใส่ในแฟ้มสะสมผลงานของตน, การมีส่วนร่วมในองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Autonomous Organization: DAO), การเป็นตัวแทนของชุมชนบนโลกออนไลน์ หรือการเริ่มบทสนทนาบนแพลตฟอร์ม Discord ซึ่งการนำผลงานของตนไปเผยแพร่สู่สาธารณะและการสร้างตัวตนบนโลกโซเชียลจะทำให้พวกเขาพบกับโอกาสใหม่ ๆ

เสริมทักษะตัวเอง - แม้ว่าบรรดาบริษัทคริปโตจะพากันปลดพนักงานกันเป็นว่าเล่นในช่วงตลาดหมีคริปโตนี้ แต่ก็มีสตาร์ตอัปหลายแห่งที่กำลังมองหาคนเก่ง ๆ มาร่วมงานด้วยอยู่ โดย Loytynoja ก็กล่าวว่า “ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะเจาะในการพัฒนาทักษะของคุณ และสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม…สำหรับคนที่โดนปลดออกจากงานโดยเฉพาะ ความสวยงามของ Web3 คือ มีโอกาสการทำงานและการมีส่วนร่วมมากมายให้ไขว่คว้าที่จะช่วยให้คุณเสริมสร้างความชำนาญและการถูกกล่าวถึงภายในองค์กรที่คุณอยากจะร่วมงานด้วยได้”

มีความริเริ่ม เป็นตัวเอง รับผิดชอบ - Zack Skelly หัวหน้าฝ่ายจัดหาพนักงานของบริษัทด้านการลงทุนในคริปโตอย่าง Dragonfly กล่าวกับ TechCrunch ว่า เหล่าสตาร์ตอัปคริปโตที่กำลังรอฉวยโอกาสจากการที่บริษัทใหญ่ ๆ ปลดพนักงานนั้นกำลังมองหาผู้สมัครงานที่สามารถแสดงให้เห็นถึงความเป็นเจ้าของ ความคิดริเริ่ม ความเป็นตัวของตัวเอง และความรับผิดชอบในระดับสูงได้ 

สร้างแบรนด์ส่วนตัว - Dan Eskow ผู้ก่อตั้งบริษัทจัดหางานด้าน Web3 อย่าง Up Top ให้สัมภาษณ์กับ TechCrunch ว่า การเปลี่ยนสายงานมาสู่สายคริปโตนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายในตอนนี้ แต่คนที่อยากทำได้สำเร็จจริง ๆ ควรจะสร้าง “แบรนด์ส่วนตัว” ของตัวเองขึ้นมา 

และทั้งหมดนี้ก็คือ คำแนะนำและข้อคิดดี ๆ จากผู้ที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอย่างคริปโต ซึ่งก็น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในสายคริปโตที่ถ้าหากนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้กับตัวเองอย่างเหมาะสมแล้วก็แทบจะรับประกันได้เลยว่า พวกเขาจะไม่มีทางว่างงานเป็นเวลานาน ๆ อย่างแน่นอนแม้ว่าตลาดหมีคริปโตจะร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม