ในโลกของการลงทุน แม้ว่าจะมีสำนึกคิดที่มีความต่างด้านเทคนิคและท่าทีต่าง ๆ นา ๆ แต่สิ่งที่เหล่านักลงทุนมืออาชีพและผู้ให้คำปรึกษาด้านการเงินน่าจะเห็นร่วมกันโดยไม่ต้องเถียงคือ ไม่ว่าจะลงทุนแบบไหน “กฎเหล็ก” คือต้อง “กระจายความเสี่ยง” ให้เหมาะสม และการเอาเงินทั้งหมดไปลงกับสินทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งมันน่าจะเรียกว่า “การพนัน” มากกว่า “การลงทุน”

การกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ต่าง ๆ นั้นเป็นวิธีคิดพื้นฐานของการลงทุนและเป็นบทเรียนแรก ๆ เลยของการเรียนรู้ด้านการลงทุนซึ่ง “หลักทั่วไป” เลยก็คือเก็บ “เงินสด” ไว้พอใช้ก็พอ ที่เหลือเอาไปลงทุนให้หมด โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนหลัก ๆ ไปยังหุ้นและตราสารหนี้ ส่วนจะแบ่งไปยังหุ้นและตราสารหนี้แค่ไหน โดยทั่วไปก็แล้วแต่อายุ เพราะหุ้นนั้นมีความผันผวนสูง แต่ก็มีโอกาสโตสูง ซึ่งทำให้คนอายุน้อย ๆ ที่ระยะเวลาลงทุน 30-40 ปี นั้นควรลงทุนในหุ้นให้เยอะ แต่ถ้าอายุมากขึ้นก็ควรจะปรับสัดส่วนไปลงทุนในอะไรที่ผลตอบแทนน้อยกว่า และมีความผันผวนน้อยกว่า ซึ่งสินทรัพย์มาตรฐานในกลุ่มนี้ก็ได้แก่พวกตราสารหนี้และอสังหาริมทรัพย์

นี่คือหลักการลงทุนทั่วไปที่ “คลาสสิค” มากๆ

...จน “คริปโต” มาถึง

ในปี 2017 เมื่อโลกการลงทุนรู้จักคริปโตครั้งแรก ปฏิกิริยาทั่วไปก็ไม่เป็นมิตรนัก และบอกได้เลยว่านักลงทุนมืออาชีพทั่ว ๆ ไป จะเรียก

 คริปโตว่า “ขยะ” ก็ไม่แปลก และจริง ๆ มันก็มีบันทึกไว้มากมายว่าใครได้พูดอะไรไว้

...แต่ประเด็นคือ ทุกวันนี้ แม้กระทั่งคนที่เรียกคริปโตว่า “ขยะ” ก็ออกมายอมรับแล้วว่าตัวเองถือคริปโตในมือ และก็แนะนำให้คนอื่นถือด้วย

และก็ไม่ใช่แค่คนพวกนี้ แต่ผู้แนะนำด้านการลงทุน ยันผู้จัดการกองทุนสารพัดก็ยอมรับกันหมดแล้วว่าคริปโตได้พิสูจน์ตัวเองมาพอแล้ว ว่าเป็นสินทรัพย์ที่ควรค่าแก่การลงทุน เรียกได้ว่า ไปอ่านเว็บลงทุนทั่วไป มันเป็นมาตรฐานไปแล้วในปี 2021 ที่แม้แต่นักลงทุนกระแสหลักก็จะแนะนำให้คุณ “ควรจะถือคริปโตเอาไว้บ้าง”

แต่จะถือเท่าไรล่ะ?

ประการแรกเลย กฎเหล็กอีกข้อของการลงทุนก็คือ “อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ” อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริง ทุกคนที่ลงทุนก็คงรู้ว่าจริง ๆ ถ้ายิ่งไม่ลงทุนเลย มันจะยิ่งไม่เข้าใจ ดังนั้นประเด็นมันคือ การเริ่มลงทุนที่ละน้อยมันก็ดีกว่าจะไม่ทำอะไรเลย

นี่นำมาสู่ประการที่สองคือ แล้วเพดานการลงทุนในคริปโตควรจะเป็นเท่าไร? เพราะแน่นอน ไม่ลงทุนในคริปโตเลย อาจทำให้ไม่เข้าใจ แต่ถ้าลงทุนไปแบบไม่มีเพดานเลย ก็น่าจะถือว่าบริหารจัดการความเสี่ยงได้ไม่ดี เพราะตัวเลขมันก็ฟ้องชัด ๆ ว่าทรัพย์สินอย่างคริปโตมีความผันผวนมากกว่าหุ้น และอะไรที่ผันผวนแบบนี้ต้องมีความระมัดระวังในการลงทุนสูงทั้งนั้น

แล้วเพดานมันควรจะเป็นเท่าไร?

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินทั่วไป มีคำตอบที่แตกต่างกัน แต่สามารถบอกรวม ๆ ได้ว่าคนพวกนี้เสนอให้เราถือคริปโต 1-10% ของสินทรัพย์ทางการเงินทั้งหมด หรือพูดง่าย ๆ เพดานอยู่ราว ๆ 10%

ตรงนี้ถ้าจะลงในรายละเอียด คือสำหรับคนที่ไม่ชอบคริปโตก็ยังมองว่าลงไว้สัก 1% ก็ไม่เสียหาย ไม่ว่าจะอายุเท่าไร แต่สำหรับคนที่ค่อนข้างจะมีทัศนคติที่ดี ก็จะมองว่าถ้าสำหรับคนมีอายุหน่อย ไม่ควรจะถือเกิน 5% แต่สำหรับคนอายุไม่เกิน 30-40 ปี อาจถือได้ถึง 10% ทั้งนี้ จะถือเท่าไรก็แล้วแต่ความรู้ความเข้าใจและความเชื่อมั่นในตลาดคริปโต

นี่เป็น “เสียงสะท้อน” จากโลกการเงินกระแสหลักที่เริ่มยอมรับคริปโตแล้วว่าเป็น “การลงทุน” หนึ่งที่โอเคแล้ว ส่วนถ้าไปถามเหล่า “คนคริปโต” ก็แน่นอน คำตอบอาจจะต่างไป เพราะก็มีนักเทรดคริปโตอาชีพบางคนแนะนำว่าถ้ามีความรู้และความชำนาญพอ จะถือคริปโตถึง 30% ของสินทรัพย์ทั้งหมดก็ยังไหว

แต่ทั้งหมดนี้ ไม่ว่าจะถือคริปโตเท่าไหร่ ถ้ามันวางอยู่บนฐานของหลักการบริหารจัดการความเสี่ยง และทำด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่ความโลภ มันก็น่าจะนำมาสู่การถือในสัดส่วนที่เหมาะสมในแต่ละคน


Ref.

https://finance.yahoo.com/news/much-crypto-investment-portfolio-110000893.html 

 https://www.cnbc.com/2020/01/30/heres-the-right-amount-of-cryptocurrency-to-keep-in-a-portfolio.html 

 https://www.forbes.com/sites/cbovaird/2019/05/07/how-much-of-your-portfolio-should-be-in-crypto/?sh=1850ecbb3611 

 https://www.investopedia.com/news/every-portfolio-should-have-6-bitcoin-yale-study/ 

 https://time.com/nextadvisor/investing/cryptocurrency/how-much-your-portfolio-should-be-crypto/