เหรียญ ADA ประจำบล็อกเชน Cardano นั้นถือเป็นเหรียญคริปโตที่โด่งดังมากที่สุดเหรียญหนึ่งในวงการ โดย ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ ADA นั้นมีมูลค่าสินทรัพย์รวมตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงติดท็อป 10 ในตลาดคริปโตเลยทีเดียว อีกทั้งเมื่อช่วงกลางปี 2564 ที่ผ่านมา ราคาของ ADA ได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1000% ทำให้หลายคนหันมาสนใจ โดยมองว่าเป็นเหรียญที่มีอนาคตไกล และถึงขั้นมอบฉายาให้ว่าเป็น “ผู้ฆ่า Ethereum” อีกด้วย บทความนี้จึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับบล็อกเชน Cardano และเหรียญ ADA กัน


Cardano คืออะไร?

Cardano คือแพลตฟอร์มบล็อกเชน “รุ่นที่ 3” ที่มีความกระจายศูนย์และใช้ระบบตรวจสอบธุรกรรมแบบ Proof-of-Stake (PoS) โดยยังเป็นแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่คล้ายกับ Ethereum โดยมีเหรียญคริปโตประจำบล็อกเชนคือ ADA ไว้สำหรับใช้จ่ายค่าธรรมเนียมบนบล็อกเชน Cardano ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการขยายการรองรับปริมาณธุรกรรม (Scalability) ของบล็อกเชนรุ่นที่ 1 (เช่น Bitcoin) และบล็อกเชนรุ่นที่ 2 (เช่น Ethereum ก่อนการอัปเกรด The Merge) และด้วยความที่ใช้ระบบ Proof-of-Stake ทำให้ Cardano มีจุดเด่นเหนือ Ethereum ก่อน The Merge ซึ่งใช้ระบบ Proof-of-Work (PoW) ตรงที่ทำงานได้เร็วกว่าและมีค่าธรรมเนียมถูกกว่า จึงเป็นที่มาของฉายา ผู้ฆ่า Ethereum หรือ Ethereum Killer นั่นเอง

Cardano ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน การขยายการรองรับปริมาณธุรกรรม และความโปร่งใส โดยเป็นบล็อกเชน Open Source (บล็อกเชนที่เปิดให้ผู้ใช้เข้าไปดูข้อมูลธุรกรรมในระบบได้) แบบ 100% ที่มีความตั้งใจที่จะมอบโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุม ยุติธรรม และคงทนให้กับแอปพลิเคชันด้านการเงินและสังคมในระดับสากล พันธกิจหลัก ๆ ของ Cardano คือ การนำบริการทางการเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มามอบให้กับผู้ที่เข้าถึงบริการเหล่านั้นไม่ได้


เหรียญ ADA

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ADA เป็นเหรียญคริปโตประจำบล็อกเชน Cardano ซึ่งสามารถใช้จ่ายค่าธรรมเนียมบนบล็อกเชนได้ แต่เหรียญ ADA ยังใช้การอย่างอื่นได้อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะใช้โอนมูลค่าทางไกลไปมาโดยตรงระหว่างบุคคลสองฝ่าย ใช้โหวตเพื่อร่วมกำหนดทิศทางของบล็อกเชน หรือใช้ค้ำประกัน (Stake) เพื่อร่วมตรวจสอบธุรกรรมและดูแลเครือข่าย โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นเหรียญ ADA เพิ่มเติม อีกทั้งในอนาคตยังจะใช้ได้กับแอปพลิเคชันและบริการที่หลากหลายบน Cardano อีกด้วย


ใครคือผู้สร้าง Cardano?

Cardano คิดค้นขึ้นโดย Charles Hoskinson ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบล็อกเชน Ethereum ด้วย โดย Hoskinson เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท IOHK ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังการสร้าง Cardano ขึ้นมา

โปรเจกต์ Cardano เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2558 เมื่อ Hoskinson และอดีตเพื่อนร่วมงานของเขาอย่าง Jerry Wood ลาออกจาก Ethereum Foundation บริษัทผู้สร้าง Ethereum เนื่องจากมีปัญหาความขัดแย้งกันภายในบริษัท ต่อมา พวกเขาก็ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท IOHK และเปิดตัว Cardano และเหรียญ ADA ในปี 2560


จุดเด่นของ Cardano

Cardano ถือเป็นบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดอันดับต้น ๆ ที่นำระบบตรวจสอบธุรกรรมแบบ PoS มาใช้งานได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นระบบตรวจสอบธุรกรรมที่ใช้พลังงานน้อยกว่าแบบ PoW ที่ใช้โดย Bitcoin และ Ethereum ก่อน The Merge นอกจากนี้ ทางโปรเจกต์ยังให้ความสำคัญกับการตรวจสอบให้แน่ใจว่า ทุกเทคโนโลยีที่พัฒนาโดยทางโปรเจกต์จะผ่านการวิจัยที่ได้รับการประเมินจากนักวิจัยคนอื่น ๆ ด้วย หมายความว่า ไอเดียการพัฒนาต่าง ๆ จะได้รับการตรวจสอบก่อนได้รับอนุมัติ ซึ่งทางทีมงาน Cardano บอกว่า นี่คือสิ่งที่ทำให้บล็อกเชนของตนมีความมั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้ บล็อกเชน Cardano ก็กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยโรดแมปของ Cardano ได้แบ่งการพัฒนาเป็น 5 ระยะ ได้แก่ Byron, Shelley, Goguen, Basho และ Voltaire ซึ่งแต่ละระยะก็พัฒนากันไปพร้อม ๆ กัน โดยระยะ Byron เป็นช่วงของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย ระยะ Shelley เริ่มขึ้นเมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นการเพิ่มความกระจายศูนย์ให้กับเครือข่าย ระยะ Goguen เริ่มขึ้นเมื่อปี 2564 โดยเป็นการทำให้ Cardano สามารถทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะได้ และล่าสุดในปี 2565 นี้ก็กำลังอยู่ในระยะ Basho ที่จะเน้นไปที่เรื่อง Scalability รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและความมั่นคงของเครือข่าย ส่วนระยะสุดท้ายอย่าง Voltaire จะเป็นการเพิ่มความเป็นอัตโนมัติและความกระจายศูนย์ให้กับเครือข่ายเพื่อให้อนาคตของ Cardano มาอยู่ในมือของคนในชุมชนแบบเต็มตัว


สรุป

ในภาพรวมแล้ว Cardano เป็นเครือข่ายที่มีความทะเยอทะยาน โดยแม้ที่ผ่านมาจะมีปัญหาหลายอย่าง เช่น การเลื่อนการอัปเกรดเครือข่ายต่าง ๆ ไปหลายครั้ง แต่ Cardano ก็ก้าวจากการเป็นสุนัขรองบ่อนขึ้นมาเป็นบล็อกเชนที่มาเขย่าบัลลังก์ของ Ethereum ได้ ซึ่งหนทางข้างหน้าของ Cardano ก็ยังอีกยาวไกล แต่ทีมงานของ Cardano ที่นำโดย Hoskinson ก็มีความพร้อมที่จะรับมือกับอุปสรรคต่าง ๆ เป็นอย่างดี ก็ต้องติดตามต่อไปว่า บล็อกเชนศักยภาพสูงรายนี้จะไปได้ไกลถึงไหนในอนาคต