ถ้าจะพูดถึงตัวชี้วัดทางเทคนิคขั้นพื้นฐานที่สุดที่ต้องรู้จักก่อนอย่างแรก มันก็น่าจะเป็นเส้น Moving Average อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งถ้าใครเคยดูพวกกราฟแท่งเทียน ก็จะเห็นเส้นที่วิ่งเป็นแนวล้อไปกับกราฟแท่งเทียนเส้นหนึ่ง นั่นแหละคือเส้น Moving Average

คือหลายคนน่าจะเคยเห็นแน่ ๆ แต่อาจไม่รู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นมายังไงและใช้ทำอะไร

อย่างแรกก็คือ เราต้องรู้จักก่อนว่าเส้น Moving Average มี 3 แบบ คือ 1. Simple Moving Average 2. Exponential Moving Average 3. Weighted Moving Average ซึ่งเขาแยกเพราะบางคนคิดว่าสองอันหลังจะมีความอ่อนไหวกับความผกผันของราคาในระยะสั้นมากกว่า แต่อันที่คลาสสิกจริง ๆ คืออันแรก และถ้าพูดถึง Moving Average แบบไม่มีส่วนขยายอะไรเพิ่ม เขาจะหมายถึง แบบที่ 1 ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ SMA กัน

Simple Moving Average หรือ SMA นั้น อธิบายง่าย ๆ ก็คือการเอา “ราคาปิดตลาด” ในช่วงเวลาหนึ่งมาหาค่าเฉลี่ย เช่น เส้น SMA แบบ 200 วัน นั่นก็คือเอาราคา 200 วัน (ราคาของวันนั้น+199 วันก่อนหน้า) มาบวกกันแล้วหาร 200 แล้วเอาจุดที่ได้มาพล็อตเป็นกราฟ

แล้วมันใช้ยังไง?

ถ้าใช้เปล่า ๆ ปกติเขาจะใช้ Simple Moving Average แบบ 200 วัน เอาไว้ดูสถานการณ์ปัจจุบันเมื่อเทียบกับ “แนวโน้มระยะยาว” เช่น ถ้าราคาปัจจุบัน ต่ำกว่าเส้น SMA ก็เป็นสัญญาณว่าราคาน่าจะขึ้น ถ้า “แนวโน้ม” ไม่เปลี่ยน

แต่มันก็มีเทคนิคที่คลาสสิกมากเช่นกัน คือการใช้เส้น SMA สองเส้นพร้อมกัน เส้นหนึ่งแบบ 200 วัน อีกเส้นแบบ 50 วัน และดูที่ “จุดตัด”

จุดที่เส้น SMA 50 วัน ตัดเส้น SMA 200 วัน แบบที่เส้น 50 วัน วิ่งลงต่ำกว่าเส้น 200 วัน หรือ “ค่าเฉลี่ยราคา” ในแนวโน้มระยะสั้น ต่ำกว่าของแนวโน้มระยะยาว เขาจะเรียกว่า Death Cross ซึ่งความหมายก็ตามนั้น คือหายนะกำลังจะเกิด เป็นสัญญาณของตลาดขาลง ซึ่งภาวะแบบนี้มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อในระยะสั้น ราคาเหรียญมีการตกลงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีราคาขึ้นไปดึงค่าเฉลี่ยไม่ให้ตกลง จนค่าเฉลี่ยระยะสั้นต่ำกว่าระยะยาวในที่สุด

อีกด้าน จุดที่เส้น SMA 50 วัน ตัดเส้น SMA 200 วันแบบเส้น 50 วัน วิ่งขึ้นเหนือเส้น 200 วัน หรือ “ค่าเฉลี่ยราคา” ในแนวโน้มระยะสั้น สูงกว่าของแนวโน้มระยะยาว เขาจะเรียกว่า Golden Cross ซึ่งความหมายก็ตามนั้น คือเรื่องดี ๆ กำลังจะเกิด เป็นสัญญาณของตลาดขาขึ้น ซึ่งภาวะแบบนี้มันจะเกิดก็ต่อเมื่อ ในระยะสั้น ราคาพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีราคาลงไปดึงค่าเฉลี่ยลง จนค่าเฉลี่ยระยะสั้นต่ำกว่าระยะยาวในที่สุด

ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคเบสิกในการใช้ SMA แบบพื้นฐานเลย ซึ่งก็แน่นอน ใน “สูตรเทรด” ของแต่ละคนนั้นก็ยากจะดู “ตัวชี้วัดทางเทคนิค” แค่อันเดียว แต่หลักก็คือ ถ้าตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้ หลายตัวชี้ไปในทางเดียวกัน แนวโน้มก็คือตลาดก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ

แต่ก็แน่นอนอีกว่าตลาดการเงินมันไม่มีอะไรแน่นอน พวกตัวชี้วัดทางเทคนิคหลัก ๆ มันใช้ได้พอควรสำหรับโมเมนตัมของตลาดที่ไม่มีอะไรภายนอกเข้ามาแทรกแซงหรือไม่มีการ “เปลี่ยน” ในระดับปัจจัยพื้นฐาน อย่างเช่น มีโรคระบาด ธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย มีสงคราม หรือกระทั่งบริษัทใหญ่ในอุตสาหกรรมเจ๊ง ซึ่งต่อให้มีเป็นร้อยตัวชี้วัด มันก็คาดเดาและอธิบายอะไรไม่ได้เหมือนกัน

 

Ref.

https://www.investopedia.com/terms/s/sma.asp