ในโลกการลงทุน ณ กลางปี 2023 ตลาดหุ้นอเมริกาก็ได้มีเทรนด์ใหม่ที่เรียกได้ว่าเป็นการ “เห่อ AI” จนเกิดกลุ่มบริษัท "7 มหัศจรรย์" ที่เป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น ซึ่งหุ้นก็ขึ้นอย่างบ้าบอไปเป็นบริษัท Top 10 ของโลกกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Apple, Microsoft, Amazon, Google, Facebook, Tesla และ Nvidia

ก็แน่นอนอีก หุ้นพวกนี้ขึ้นไปเยอะแล้ว คือมันไม่มีลุ้นจะเพิ่มมูลค่าเป็น 10 เท่าใน 10 ปีอะไรงี้ พวกนักลงทุนสายที่อยากหาหุ้นที่โตเยอะ ๆ ก็เลยไปหาหุ้นกลุ่มอื่น ที่จะโตไปกับกระแส AI

...และที่น่าสนใจคือบริษัทที่เขามอง ๆ กันว่า "มีแวว" คือบริษัท UiPath อดีตสตาร์ตอัปจากโรมาเนียที่ IPO ไปในตลาดหุ้นอเมริกาเมื่อปี 2021 และตอนนี้ราคาหุ้นตกไปจากตอน IPO แล้ว 70%

...แล้วทำไมคนถึงยังสนใจ

นี่แหละที่น่าสนใจ เพราะจริง ๆ UiPath ไม่ได้ทำเกี่ยวกับ AI แต่ทำสิ่งที่เรียกว่า Robotic Process Automation (RPA)

ซึ่งพอนักลงทุนเห็นว่า UiPath ไม่ทำ AI ก็เลยทิ้งหุ้นจนราคาร่วง

แต่ "คนรู้เรื่อง" มองว่า UiPath นี่แหละคือ "อนาคต" เพราะจริง ๆ พวกนักลงทุนไม่รู้จัก RPA ด้วยซ้ำ

เราจะเข้าใจประเด็นนี้ เราต้องเข้าใจความต่างของ AI กับ RPA ก่อน

AI คือการสร้าง "โปรแกรมสร้างสรรค์" ที่สามารถเลียนแบบกระบวนการคิดของมนุษย์ได้ เป้าของการทำ AI คือการให้ Input กับมันและให้มันมี Output เหมือนมนุษย์ ซึ่งนี่เขาเลยต้องมีการทำ Turing Test คือดูว่า AI นั้น "ตอบ" คำถามต่าง ๆ หรือผลิตงานต่าง ๆ ได้ เหมือนมนุษย์แบบที่มนุษย์แยกไม่ออกไหม

RPA คือการสร้าง "โปรแกรมหุ่นยนต์เสมือน" ที่หลัก ๆ แล้วไม่มีความรู้อะไรนอกจากการ "เลียนแบบการทำงานของมนุษย์" ซึ่งยิ่งมีต้นแบบให้เลียนแบบเยอะ ก็จะยิ่งเลียนแบบได้ดี ซึ่งพอมันเลียนแบบมนุษย์เรียบร้อย มันก็ทำงานตามที่มันเลียนแบบมนุษย์ได้

แล้วมันต่างกันยังไง?

AI นั้นถูกสร้างมาสร้างสรรค์ หลัก ๆ คือมันจะทำงานสร้างสรรค์ได้ดี แต่เนื่องจากความ "สร้างสรรค์" ของมัน งานมันจะมีโอกาสผิดพลาดเสมอ ซึ่งเราก็คงเห็นแล้วว่า ChatGPT นั้นตอบคำถามได้เหมือนมนุษย์ก็จริง แต่ถ้าไป "ตรวจสอบข้อเท็จจริง" จะพบว่ามัน "พัง" หมด คือตอบไม่ตรงข้อเท็จจริงเลย แค่มันใช้ภาษาได้เหมือนมนุษย์

ส่วน RPA กระบวนการคือถ้าคนจะใช้ คุณก็ต้องสร้าง "บอท" มาก่อน แล้วให้มันดูคุณทำงาน ดูไปเยอะ ๆ มันจะทำงานเลียนแบบคุณได้ มันไม่สร้างสรรค์  แต่มันมีความเป๊ะ เพราะมันเลียนแบบการทำงานของคุณเป๊ะ ๆ ซึ่งงานพวกนี้ มันเหมาะกับงานเอกสารต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องสร้างสรรค์ แต่ต้องเป๊ะ เช่น การทำงานบัญชี หรือกระทั่งการทำเอกสารทางกฎหมาย ซึ่งอะไรพวกนี้คนล้วน "บ่น" ว่า ChatGPT ทำออกมาได้แย่มาก (และความเป็นจริงคือมันไม่มีทางทำได้ดีเพราะ "ความสร้างสรรค์" ของมันถูกใช้ในสิ่งที่ "ไม่ควรจะสร้างสรรค์" นี่แหละ)

ซึ่งถามว่า UiPath ทำอะไร? อธิบายง่าย ๆ คือมันเป็นบริษัทที่ทำ RPA ตัวท็อปเลย และมันพยายามจะตอบโจทย์ในลูกค้ากลุ่มธุรกิจเต็ม ๆ โดยมันเน้นเลยว่าโปรแกรมนั้นจะช่วยให้องค์กรสามารถทำ "งานซ้ำ ๆ" ได้เร็วขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะพวกงานเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องทำเป็นกิจวัตร

มองในแง่นี้ UiPath ดูมีอนาคตมาก ๆ เพราะยังไงองค์กรก็น่าจะต้องใช้ในที่สุด

“ปัญหา” คือตอนนี้ทุกคนเห่อ AI กันหมด คิดว่า AI ทำได้ทุกอย่าง และไม่เข้าใจว่างานบางอย่างนั้นไม่ควรที่จะใช้ระบบ AI ทำ เพราะมันทำไม่ได้ ทำออกมาก็ผิด ต้องเสียเวลาแก้อยู่ดี

ดังนั้นมองในแง่นักลงทุน ตอนนี้มันเหมือนพวกภาคธุรกิจไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่า UiPath ทำอะไร ทั้งที่สุดท้ายทุกคนน่าจะต้องกลายเป็นลูกค้าของ UiPath (หรือบริษัทอื่น ๆ ที่พัฒนาเทคโนโลยีแบบเดียวกันมา)

และนี่แหละ เขาเลยมองว่าหุ้น UiPath ที่ตกมาขนาดนี้ มันเป็นจังหวะดีที่จะซื้อ เพราะมันคือจังหวะที่โลกไม่มีความเข้าใจว่าสิ่งที่บริษัทนี้ทำจะเป็นเทคโนโลยีปฏิวัติการทำงาน ที่จะ "ใช้งานได้จริง" ไม่ใช่ทำให้คนเห่อแล้วใช้งานไม่ได้จริงอย่างพวกเทคโนโลยี AI

ซึ่งก็แน่นอน นี่ไม่ใช่บริษัทที่ใคร ๆ ก็รู้จัก มันไม่ค่อยออกสื่อ แต่นักลงทุนก็เริ่มจับตากันแล้ว เราเลยเอามาเล่าให้ฟัง

 

Ref.

https://www.uipath.com/rpa/robotic-process-automation

https://www.fool.com/investing/2023/06/20/could-uipath-stock-help-you-become-a-millionaire/ 

https://en.wikipedia.org/wiki/UiPath 

https://www.uipath.com/blog/digital-transformation/fourth-industrial-revolution-is-underway