ความตายเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เราทุกคนมิอาจหลีกเลี่ยงได้ มิหนำซ้ำเรายังไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ด้วยว่าเราจะตายเมื่อไหร่ ดังนั้น นักลงทุนคริปโตทุกคนจึงควรวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ให้สกุลเงินคริปโตของเราหลุดลอยไปจากสารบบหรือสูญหายไปโดยเปล่าประโยชน์  

ย้อนไปช่วงปลายปี 2020 เว็บไซต์วิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชนอย่าง Glassnode เคยประเมินเอาไว้ว่า มากกว่า 10% ของบิตคอยน์ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบจะหายสาบสูญไปตลอดกาล ทั้งนี้ ไม่อาจบอกได้ว่า บิตคอยน์เหล่านี้จะไปตกอยู่ในน้ำมือของใคร แต่เราก็สามารถทึกทักได้ว่า สาเหตุที่บิตคอยน์บางส่วนสูญหายไปนั้นเป็นเพราะเจ้าของไม่มีแผนการจัดการสินทรัพย์ของตนอย่างเพียงพอก่อนที่ความตายจะพรากทุกอย่างไปจากพวกเขาตลอดกาล ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีจัดการสินทรัพย์คริปโตของคุณก่อนตายเพื่อทำให้มั่นใจว่า คนที่คุณทิ้งไว้ข้างหลังจะได้รับอานิสงส์ผลบุญจากการลงทุนในอดีตของคุณ

ความปลอดภัยและความสำคัญของการเลือกคนมารับช่วงต่อจากคุณ

แทบไม่มีอะไรในโลกเลยที่เราจะได้มาฟรี ๆ ได้อย่างก็เสียอย่าง ดังนั้น ก่อนที่จะไปดูวิธีรักษาความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ของเรา เราจำเป็นต้องเข้าใจก่อนว่า การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโตส่วนตัว เช่น ที่อยู่และวิธีเข้าถึงสินทรัพย์นั้น ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

การเลือกคนที่จะมาดูแลสินทรัพย์คริปโตต่อจากคุณไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากคน ๆ นั้นจะต้องเป็นคนที่คุณไว้ใจและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีเป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น นายบ็อบบี้มีบิตคอยน์ (Bitcoin: BTC) จำนวน 5 BTC ที่ต้องการมอบให้กับภรรยาที่ชื่อว่านางอลิซาเบ็ธก่อนตาย ทว่านางอลิซาเบ็ธกลับไม่รู้จักการใช้กระเป๋าเก็บคริปโตแบบ Hardware Wallet หรือแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตเลย เธอจึงต้องไปจ้างคนมาช่วยซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะถูกขโมยได้ หรือในขณะที่เธอเรียนรู้การใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ด้วยตัวเองก็ยังมีความเสี่ยงเช่นกัน เนื่องจากการส่งคริปโตไปผิดที่อยู่นั้นเกิดขึ้นได้ง่ายมาก นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงเรื่องการถูกล็อกไม่ให้เข้าถึงอุปกรณ์ และการถอนสินทรัพย์โดยใช้มาตรฐานโทเคนผิดอันอีกด้วย

Tether (USDT) เป็นตัวอย่างของสินทรัพย์คริปโตที่แบ่งออกได้ 3 ประเภทซึ่งขึ้นอยู่กับบล็อกเชนที่มีการออกสินทรัพย์ ได้แก่ OMNI, ERC-20 และ TRC-20 ถ้าหากคุณส่ง USDT ประเภทใดประเภทหนึ่งนี้ไปยังกระเป๋าเงินที่ไม่รองรับ สกุลเงินคริปโตของคุณก็จะหายไปโดยปริยาย ตัวอย่างเช่น หากคุณส่งเหรียญ USDT-Omni ไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตประเภท ERC-20 เหรียญดังกล่าวก็จะหายไปจากสารบบอย่างไม่มีวันหวนกลับ

นอกจากนี้ อีกประเด็นที่คุณควรพิจารณาคือ คุณควรเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโตของคุณมากแค่ไหน? ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่า คุณควรเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอเพื่อให้ผู้รับมอบอำนาจสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดังกล่าวของคุณได้ แต่สิ่งที่คุณต้องพิจารณาด้วยก็คือ คุณจะบอกให้คน ๆ เดียวรู้หรือบอกให้คนหลาย ๆ คนรู้ดีล่ะ? การบอกให้หลาย ๆ คนรู้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดีคือ จะช่วยป้องกันไม่ให้คนหนึ่งคนสามารถขโมยสินทรัพย์ของคุณไปได้ในขณะที่คุณยังมีชีวิตอยู่ ส่วนข้อเสียก็คือ แผนการทั้งหมดทั้งมวลจะพังทลายเอาได้ถ้าหากว่าคนใดคนหนึ่งลืมคำสั่งของคุณ

นักลงทุนคริปโตควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนตาย?

  1. ที่อยู่สินทรัพย์ของคุณ – คำสั่งเสียอันดับแรกเลยคือ การบอกที่อยู่สินทรัพย์ของคุณ คุณควรบอกให้ผู้รับมอบอำนาจทราบว่า คุณเก็บกระเป๋าเงินคริปโตแบบ Hardware Wallet และ Hot Wallet ไว้ที่ไหนบ้าง นอกจากนี้ ถ้าหากว่าคุณเก็บสินทรัพย์คริปโตไว้ในหลาย ๆ ที่ เช่น แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchange: CEX) ตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Non-Fungible Token (NFT) หรือกองทุนสภาพคล่อง (Liquidity Pool) บนแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi) คุณควรจะนำสินทรัพย์เหล่านั้นไปเก็บไว้ในกระเป๋าเงินคริปโตที่รองรับประเภทสินทรัพย์ได้หลายประเภท 
  2. รหัสผ่าน, กุญแจส่วนตัว (Private Key) และรหัสสำรอง – คุณจำเป็นต้องจดรหัสผ่าน กุญแจส่วนตัว และชุดรหัสคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Seed Phrase) สำหรับกระเป๋าเงินคริปโต บัญชีอีเมล และบัญชีบนแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตที่จำเป็นต้องใช้ในการเข้าถึงสินทรัพย์คริปโตของคุณเอาไว้ ถ้าหากคุณเปิดการยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (Two-Factor Authentication: 2FA) เอาไว้ คุณต้องบอกที่อยู่และรหัสผ่านของอุปกรณ์ที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน หรือไม่ก็บอกรหัสสำรอง 2FA ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าหากว่าคุณตั้งค่าบัญชีให้ส่งข้อความรักษาความปลอดภัยทาง SMS คุณต้องบอกรายละเอียดเกี่ยวกับรหัสผ่านและที่อยู่โทรศัพท์ที่คุณกำลังใช้อยู่ด้วย 
  3. คำแนะนำทางเทคนิค – การบอกขั้นตอนเกี่ยวกับการจัดการและการขายสินทรัพย์ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้รับมอบอำนาจเมื่อคุณตายไปแล้ว โดยคุณอาจจะแนะนำแพลตฟอร์มที่พวกเขาควรจะใช้ รวมถึงวิธีสร้างกระเป๋าเงินคริปโตและส่งสินทรัพย์คริปโตข้ามแพลตฟอร์มด้วย แต่คุณก็ต้องจำขึ้นใจเลยว่า แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตบางแพลตฟอร์มก็ไม่จีรัง มิหนำซ้ำบางแห่งยังมีประเด็นด้านการละเมิดความปลอดภัยอีกด้วย ดังนั้น คุณจึงควรติดตามข่าวสารเสมอ

วิธีจดบันทึกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตของคุณ

การจดบันทึกข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโตของคุณไม่ใช่การจดใส่กระดาษ Post-It แล้วนำไปแปะตามตู้เย็นหรือการส่งข้อมูลทางอีเมลแต่อย่างใด ทว่าวิธีดังกล่าวคือการจดลงในกระดาษหลาย ๆ แผ่นต่างหาก แล้วนำแผ่นกระดาษเหล่านั้นไปเก็บไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ตัวอย่างเช่น หากคุณเก็บกระดาษข้อมูลคริปโตไว้ในลิ้นชักข้างเตียงนอน แล้วอยู่มาวันหนึ่งบ้านคุณเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ ลูก ๆ หลาน ๆ ของคุณก็จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงสินทรัพย์คริปโตของคุณอีกต่อไป แม้จะฟังดูตลก แต่ก็ไม่เกินจริงเลย

ทั้งนี้ หากคุณคิดว่า การจดใส่กระดาษเป็นวิธีเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโตที่ธรรมดาไป ไม่เหมาะกับนักลงทุนระดับตัวพ่อตัวแม่กระเป๋าหนักอย่างพวกคุณ พวกคุณก็สามารถเอา Seed Phrase และรหัสผ่านไปสลักไว้บนแผ่นโลหะได้เลย โดยหลาย ๆ บริษัทในวงการคริปโตก็เปิดมาเพื่อเสนอบริการดังกล่าวให้กับนักลงทุนโดยเฉพาะ ชอบแบบไหนสั่งได้เลย รับรองว่าตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้แน่นอน