หากจะกล่าวถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นที่นิยมในขณะนี้ คำตอบจากใครหลายคนคงเป็นชื่อของ “สกุลเงินคริปโต (Cryptocurrency)” หรือที่เรียกกันว่า “คริปโต” นั่นเอง โดยประเภทของสกุลเงินคริปโตที่เป็นผู้บุกเบิก มีมูลค่ามากที่สุด และเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในปัจจุบันก็คือ “Bitcoin (BTC)” อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจาก Bitcoin แล้ว สกุลเงินคริปโตยังประกอบไปด้วยเหรียญทางเลือกหรือที่เรียกกันว่า “Altcoin” อีกมากมาย และในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงที่สุด 12 อันดับ ซึ่งจะประกอบไปด้วยเหรียญอะไรบ้างนั้น ขอเชิญคุณผู้อ่านติดตามได้เลย


  1. Bitcoin (BTC)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 24,486 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 459 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Bitcoin หรือที่ใครหลายคนเรียกว่าผู้นำแห่งโลกสกุลเงินคริปโต เป็นคริปโตที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด โดยในปัจจุบันผู้สร้าง Bitcoin ยังคงเป็นปริศนา ซึ่งบุคคลหรือกลุ่มบุคคลดังกล่าวใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto โดย Nakamoto เปิดตัว Bitcoin ในปี 2009 และสกุลเงินดังกล่าวก็มีราคาที่ขึ้นและลงราวกับการเคลื่อนไหวของรถไฟเหาะนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งปี 2017 ที่ Bitcoin ได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่รู้จักกันแพร่หลาย


  1. Ethereum (ETH)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 1,668 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 197 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Ethereum เป็นชื่อของแพลตฟอร์มสกุลเงินคริปโต ซึ่งมีผู้ก่อตั้งคือ Vitaly "Vitalik" Buterin โปรแกรมเมอร์ชาวรัสเซีย-แคนาดา โดยระบบภายใน Ethereum จะใช้ “Ether” เป็นสกุลเงินในการทำหน้าที่หลายอย่าง และใช้ระบบที่เรียกว่า “สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)” ซึ่งระบบดังกล่าวทำให้ Ethereum เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเป็นอันดับที่ 2 รองจาก Bitcoin


  1. Tether (USDT)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 1 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • มูลค่าตามราคาคลาด: 70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Tether คือสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Stablecoin ซึ่งจะอิงกับมูลค่าของทรัพย์สินบางประเภทเสมอ โดยในกรณีของ Tether นั้นอิงมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นสาเหตุที่ราคาของเหรียญนี้จะคงไว้ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 เหรียญเสมอหรือไม่ก็ใกล้เคียง โดย Tether มักทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเมื่อนักลงทุนอยากจะเปลี่ยนจากสกุลเงินคริปโตสกุลหนึ่งเพื่อไปถืออีกสกุลหนึ่งโดยไม่ต้องแปลงกลับเป็นสกุลเงินตราก่อน อย่างไรก็ตาม บางคนยังคงมีความกังวลว่า Tether นั้นไม่ได้อิงมูลค่าอยู่กับเงินดอลลาร์ที่ถืออยู่ในคลังแต่ใช้ตราสารหนี้ระยะสั้นที่ไม่มีหลักประกันมาหนุนหลังแทน


  1. BNB (BNB)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 313.82 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

BNB เป็นเหรียญคริปโตที่ออกโดยแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตอย่าง Binance ที่มีผู้ก่อตั้งนามว่า Changpeng Zhao โดยก่อนหน้านี้ BNB คือเหรียญที่ใช้เป็นส่วนลดในการแลกเปลี่ยนคริปโตบน Binance เท่านั้น แต่ในปัจจุบันสามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ได้


  1. USD Coin (USDC)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 1 ดอลลาร์สหรัฐ
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

USD Coin พัฒนาโดย Circle บริษัทด้านการเงิน และเป็นสินทรัพย์ที่อิงมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเช่นเดียวกับ Tether หรือกล่าวคือ มูลค่าของเหรียญดังกล่าวไม่ควรผันผวน โดยทีมผู้สร้างเหรียญได้กล่าวไว้ว่า USDC ได้รับการหนุนหลังโดยสินทรัพย์ที่สำรองไว้หรือสินทรัพย์ที่มี “มูลค่ายุติธรรมในระดับเดียวกัน” และมีการเก็บรักษาไว้ในบัญชีของสถาบันที่ได้รับอนุญาตในสหรัฐอเมริกา


  1. XRP (XRP)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 0.3967 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

XRP หรือที่รู้จักกันในชื่อเก่าอย่าง Ripple เป็นเหรียญคริปโตที่สร้างโดย Jed McCaleb ในปี 2012 โดย XRP มอบช่องทางการชำระเงินด้วยสกุลเงินต่าง ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงให้กับผู้ใช้ ซึ่งเหรียญดังกล่าวมีประโยชน์มากในการใช้ทำธุรกรรมข้ามพรมแดน และยังใช้กลไกที่ไม่ต้องพึ่งพาความไว้วางใจ (Trustless Mechanism) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการชำระเงินอีกด้วย


  1. Cardano (ADA)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 0.3921 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Cardano เป็นแพลตฟอร์มสกุลเงินคริปโตที่อยู่เบื้องหลัง ADA ซึ่งก่อตั้งโดย Charles Hoskinson ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum โดย Cardano มีการใช้งานสัญญาอัจฉริยะซึ่งช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลส่วนตัวได้


  1. Binance USD (BUSD)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 1 ดอลลาร์สหรัฐ
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Binance USD เป็น Stablecoin ที่อิงมูลค่ากับเงินดอลลาร์สหรัฐ และมีการทำงานอยู่บนบล็อกเชน Ethereum โดยเป็นเหรียญที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง Binance และ Paxos บริษัทด้านคริปโตชื่อดัง โดย Binance USD มีการเปิดไปเมื่อปี 2019 และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลบริการทางการเงินในรัฐนิวยอร์กอย่าง New York State Department of Financial Services (NYDFS)


  1. Polygon (MATIC)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 1.41 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Polygon คือสกุลเงินคริปโตที่มุ่งเน้นให้ผู้ที่สร้างแอปดิจิทัลสามารถนำไปใช้งานได้ง่ายขึ้น และขยายขนาดของ Ethereum โดยก่อนหน้านี้ Polygon รู้จักกันในชื่อ Matic และสร้างขึ้นในปี 2017 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Polygon ในปี 2021 จนถึงปัจจุบัน


  1. Dogecoin (DOGE)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 0.08614 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เดิมที Dogecoin ถูกสร้างขึ้นมาแค่ขำ ๆ โดยผู้สร้างนามว่า Billy Markus และ Jackson Palmer หลังจากที่ Bitcoin มีราคาสูงขึ้น โดย Dogecoin ใช้ชื่อตามมีมบนอินเทอร์เน็ตที่มีรูปสุนัขพันธุ์ชิบะ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ Dogecoin แตกต่างจากสกุลเงินคริปโตอื่น ๆ คือการมีอุปทานที่ไม่จำกัดและสามารถออกเหรียญเท่าไรก็ได้ โดยคุณสามารถใช้ Dogecoin ในการชำระเงินหรือโอนเงินได้


  1. Solana (SOL)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 24.46 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Solana เปิดตัวในเดือนมีนาคมปี 2020 จากฝีมือของผู้สร้างอย่าง Anatoly Yakovenko ซึ่ง Solana เป็นสกุลเงินคริปโตแบบใหม่ที่มีความเร็วในการทำธุรกรรมและมีแพลตฟอร์มที่มีความแข็งแกร่งซึ่งใช้รูปแบบการประมวลผลที่เรียกว่า “Web-Scale” โดยในปัจจุบัน มีการจำกัดอุปทานของ Solana ไว้ที่  480 ล้านเหรียญ


  1. Polkadot (DOT)

  • ราคา ณ เวลาที่เขียนบทความนี้: 7.36 ดอลลาร์สหรัฐ 
  • มูลค่าตามราคาตลาด: 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Polkadot เปิดตัวในเดือนพฤษภาคมปี 2020 โดย Gavin Wood ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เป็นหนึ่งในผู้สร้างเหรียญดังกล่าว ซึ่ง Polkadot เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เชื่อมต่อกับเทคโนโลยีบล็อกเชนของสกุลเงินคริปโตหลากหลายสกุล โดยนักวิเคราะห์หลายคนมองว่า Polkadot จะเป็นเหรียญที่จะมาโค่นบัลลังก์ของ Ethereum ในอนาคต

ตลาดคริปโตเป็นตลาดที่ไม่อ่อนโยนต่อนักลงทุนมือใหม่เท่าไรนัก โดยแม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมที่จะเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น แต่สินทรัพย์คริปโตยังคงได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มขาลงในปี 2022 อยู่ และการซื้อขายในช่วงต้นปี 2023 นี้ก็ยังคงมีความผันผวนสูง ประกอบกับการซื้อขายในตลาดคริปโตเป็นการซื้อขายกันระหว่างนักลงทุนมือใหม่กับนักลงทุนที่มากประสบการณ์เสียส่วนใหญ่ ดังนั้น คุณไม่ควรลงทุนเกินกำลังของตัวเอง