เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศออสเตรเลีย Binance Australia แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตในประเทศออสเตรเลียซึ่งอยู่ในเครือของ Binance ได้ออกประกาศระงับบริการการแปลงสินทรัพย์ระหว่างคริปโตและเงินตรา (Fiat On- and Off-Ramp) ผ่านการโอนเงินทางธนาคาร รวมไปถึงการซื้อขายในคู่เทรดที่ประกอบไปด้วยสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแล้ว

การระงับการฝากถอนเงินตราของ Binance Australia นั้นเป็นผลต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ส่งผลต่อแพลตฟอร์ม ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Binance Australia ได้แจ้งเตือนนักลงทุนว่า ทางบริษัทจะปิดบัญชีและสถานะซื้อขายบางส่วนของผู้ใช้ที่ไม่เข้าข่ายเป็นนักลงทุนรายใหญ่ (Wholesale Investor)

โดยตามกฎหมายแล้ว นักลงทุนรายใหญ่คือนักลงทุนที่มีประสบการณ์และมีเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่มีลักษณะที่เก็งกำไรมากกว่า ซึ่งมักจะมีความเสี่ยงสูงกว่า นอกจากนี้ นักลงทุนจำพวกนี้อาจจะถูกเรียกว่า นักลงทุนสถาบันหรือนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง (Accredited Investor) โดยออสเตรเลียกำหนดว่า ผู้ที่เป็นนักลงทุนรายใหญ่จะต้องมีสินทรัพย์สุทธิอย่างน้อย 2.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือมีรายได้รวมต่อปีอย่างน้อย 250,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

หลังจาก Binance Australia ได้ระงับบัญชีที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดดังกล่าว หน่วยงานกำกับดูแลในประเทศออสเตรเลียก็ได้ดำเนินการ “ตรวจสอบแบบมุ่งเป้า” เกี่ยวกับการดำเนินงานของแพลตฟอร์มตราสารอนุพันธ์ของ Binance Australia ต่อมาในวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของออสเตรเลียได้ยกเลิกใบอนุญาตของแพลตฟอร์มตราสารอนุพันธ์ของ Binance Australia

ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาในเดือนพฤษภาคม Binance Australia ก็ได้ประกาศระงับบริการที่ต้องใช้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากที่ Zepto ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินในประเทศออสเตรเลียของ Binance Australia ได้รับคำสั่งให้หยุดส่งมอบบริการแก่ทางแพลตฟอร์ม

โฆษกของ Binance ได้เปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังทำงานอย่างหนักในการหาผู้ให้บริการรายอื่นเพื่อเปิดบริการฝาก-ถอนสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียให้แก่ผู้ใช้ พร้อมกับเสริมว่า ผู้ใช้ในประเทศออสเตรเลียยังสามารถซื้อขายคริปโตผ่านบัตรเครดิตและเดบิตได้อยู่ หรือการซื้อขายระหว่างบุคคล (Peer-to-Peer: P2P) ยังทำได้ตามปกติ นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียของผู้ใช้ที่เหลืออยู่ในบัญชีได้ถูกแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Stablecoin อย่าง Tether (USDT) เรียบร้อยแล้ว

Binance Australia ประสบปัญหาจากการไม่มีธนาคารให้ใช้บริการเฉกเช่นเดียวกับที่ Binance สาขาสหรัฐฯ อย่าง Binance.US กำลังเผชิญอยู่หลังจากที่ธนาคารพันธมิตรอย่าง Silvergate Bank และ Signature Bank ปิดตัวลงในช่วงวิกฤตด้านธนาคารเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

โดยปัญหาด้านการธนาคารที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ยังส่งผลให้ Changpeng Zhao (CZ) ผู้บริหารสูงสุดของ Binance เคยคิดที่จะซื้อธนาคารด้วยเช่นกัน แต่แผนการดังกล่าวต้องถูกล้มเลิกไปเนื่องด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง