เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2023 ที่ผ่านมา Changpeng “CZ” Zhao ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตอย่าง Binance ได้ทวีตข้อความลงบน Twitter ว่า “เนื่องด้วยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Stablecoin และธนาคารต่าง ๆ Binance จะแปลงเงินของกองทุนฟื้นฟูอุตสาหกรรมคริปโตที่เหลืออยู่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจาก Binance USD (BUSD) เป็นสกุลเงินคริปโตแบบดั้งเดิม (Native Crypto) ได้แก่ Bitcoin (BTC), BNB และ Ether (ETH)”

นอกจากนี้ Zhao ยังกล่าวเสริมอีกว่า การเคลื่อนย้ายสินทรัพย์บางรายการจะเกิดขึ้นบนบล็อกเชนเพื่อรับประกันความโปร่งใส จากนั้นเขาก็ได้โพสต์ลิงก์ที่นำไปยังหน้ารายการธุรกรรมสำหรับ BTC และ ETH พร้อมทั้งระบุว่า สินทรัพย์มูลค่า 980 ดอลลาร์นั้นใช้เวลาเคลื่อนย้ายเพียงแค่ 15 วินาทีและมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเพียง 1.98 ดอลลาร์เท่านั้น

ท่าทีดังกล่าวได้เรียกทั้งเสียงฮือฮาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาวกคริปโตบน Twitter ซึ่งสาวกคริปโตบางรายก็ชื่นชมการตัดสินใจของ Zhao โดยระบุว่า เป็นการกระทำอันเยี่ยมยอด พร้อมกับแนะนำให้ Zhao เปลี่ยนไปใช้สกุลเงินตราอื่น ๆ ในการตรึงมูลค่า Stablecoin บ้าง

ขณะที่ชาวคริปโตบางส่วนก็ตั้งคำถามถึงการตัดสินใจดังกล่าวของ Zhao ว่า อาจจะมีลับลมคมในหรือไม่ เนื่องจากความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการแปลงสินทรัพย์ Stablecoin ที่มีมูลค่าแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ที่มูลค่าแทบจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด

นับตั้งแต่ที่ธนาคารที่เป็นมิตรกับสกุลเงินคริปโตหลายแห่งล้ม ไม่ว่าจะเป็น Silicon Valley Bank (SVB), Silvergate Bank และ Signature Bank ชุมชนคริปโตก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของ Stablecoin มากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุที่บริษัท Circle บริษัทผู้ออกเหรียญ USDC มีความเกี่ยวข้องกับทั้งธนาคาร SVB และ Silvergate Bank

ราคาของ USDC ดิ่งลงถึง 0.87 ดอลลาร์จากมูลค่าเดิมที่ 1 ดอลลาร์ในวันที่ 11 มีนาคม หลังจากที่บริษัทผู้ออกเหรียญอย่าง Circle ได้เปิดเผยว่า บริษัทมีสินทรัพย์ติดอยู่กับ SVB มูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีสินทรัพย์ไม่เปิดเผยจำนวนติดอยู่กับ Silvergate Bank ด้วย ซึ่งการหลุดตรึงมูลค่าของ USDC ก็สร้างแรงกระเพื่อมไปยังเหรียญ Stablecoin อื่น ๆ ได้แก่ Dai (DAI), USD Digital (USDD) และ Frax (FRAX) จนทำให้เหรียญเหล่านี้หลุดจากการตรึงมูลค่าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม USDC ก็ได้กลับมายืนใกล้ระดับ 1 ดอลลาร์อีกครั้งในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา