ล่าสุด Binance แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตได้ส่งอีเมลแจ้งลูกค้าว่า Paysafe Payment Solutions บริษัทพาร์ตเนอร์ผู้ให้บริการด้านธนาคารสำหรับธุรกรรมสกุลเงินยูโรในปัจจุบันของแพลตฟอร์ม จะยุติการให้บริการแก่แพลตฟอร์มหลังวันที่ 25 กันยายน 2023 เป็นต้นไป
Binance ระบุว่า ทางบริษัทจะเปลี่ยนไปใช้บริการจากผู้ให้บริการฝากและถอนยูโรรายใหม่ผ่านการโอนเงินทางธนาคารด้วยระบบชำระเงินยูโรอย่าง Single Euro Payments Area (SEPA) ซึ่งเป็นโครงการชำระเงินของสหภาพยุโรป แต่ทางบริษัทยังคงไม่ได้ประกาศว่า ผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทน Paysafe เป็นบริษัทไหนกันแน่
โฆษกของ Binance ได้เปิดเผยว่า “ผู้ใช้จะต้องอัปเดตรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคารที่พวกเขาใช้ในการฝากเงินเข้าไปในบัญชี Binance และอาจต้องยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขใหม่ด้วยเพื่อใช้บริการ SEPA ต่อไปหลังจากวันที่ระบุ”
อย่างไรก็ตาม Binance ยืนยันว่า จนกว่าจะถึงเวลานั้น วิธีการฝากและถอนสกุลเงินตรา (Fiat) อื่น ๆ ในปัจจุบันทั้งหมด รวมถึงการซื้อและขายคริปโตบน Binance.com “ยังคงไม่ได้รับผลกระทบ” นอกจากนี้
Binance ยังได้เน้นย้ำว่า ประกาศล่าสุดเกี่ยวกับการชำระเงินด้วยสกุลเงินยูโรนั้น “ไม่เกี่ยวข้อง” กับการที่บริษัทถอนตัวออกจากหลายประเทศในสหภาพยุโรปเมื่อเร็ว ๆ นี้
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Binance ต้องประสบกับการต่อต้านจากหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ ทั่วโลก ส่งผลให้ทางบริษัทต้องยุติการดำเนินการในหลาย ๆ ประเทศ โดยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา Binance ได้ประกาศถอนตัวออกจากประเทศเนเธอร์แลนด์ พร้อมประกาศว่า ลูกค้าชาวดัตช์จะทำได้เพียงถอนเงินออกจากแพลตฟอร์มเท่านั้น และไม่ถึงสัปดาห์ถัดมา ทางการประเทศเบลเยียมก็ได้ออกคำสั่งให้ Binance ยุติการบริการทั้งหมดในประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อำนวยการของ Binance Brazil ยังได้รับคำสั่งให้ไปให้ข้อมูลต่อหน้ารัฐสภาบราซิลด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนที่กำลังเกิดขึ้นเกี่ยวกับธุรกิจในประเทศที่กำลังถูกกล่าวหาว่าเป็นธุรกิจแบบพีระมิด (Pyramid Scheme) ด้วยเช่นกัน
ในทำนองเดียวกัน Binance ในประเทศออสเตรเลียก็ได้ถูกตัดขาดจากระบบธนาคารออสเตรเลียโดยปราศจากการให้คำปรึกษาหรือแจ้งเตือนล่วงหน้าใด ๆ เลย โดยมีรายงานว่า ท่าทีดังกล่าวทำให้ขณะนี้ Binance Australia กำลังมองหาผู้ให้บริการชำระเงินรายใหม่อยู่
ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก Alex Chehade ผู้จัดการทั่วไปของ Binance Dubai ได้เปิดเผยว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates: UAE) กำลังวางตัวให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักสำหรับธุรกิจด้านคริปโตด้วยความชัดเจนด้านกฎระเบียบและท่าทีที่เปิดกว้างมากขึ้นต่อสินทรัพย์ดิจิทัล