เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2565 มีการเผยแพร่รายงานวิจัยจาก Allied Market Research บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาทางธุรกิจว่าด้วยเรื่องตลาดการชำระเงินด้วยสกุลเงินคริปโตที่มีมูลค่าสินทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุดในวงการคริปโตอย่างบิตคอยน์ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า มูลค่าของตลาดการชำระเงินด้วยบิตคอยน์จากทั่วโลกจะขึ้นไปแตะ 3.7882 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2574 (ค.ศ. 2031) โดยจะมีอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (Compound Annual Growth Rate: CAGR) อยู่ที่ 16.3% จากปีนี้ถึงปี 2574 เลยทีเดียว

รายงานยังระบุอีกว่า ความต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสในระบบการชำระเงินที่เพิ่มขึ้น ความต้องการส่งเงินในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่เพิ่มขึ้น และความต้องการด้านความปลอดภัยของข้อมูล ถือเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดการชำระเงินด้วยบิตคอยน์ในปีต่อ ๆ ไป

โดยรายงานอธิบายเสริมอีกว่า ความต้องการใช้บิตคอยน์ที่เพิ่มขึ้นของธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ รวมถึงศักยภาพของบิตคอยน์ที่ยังไม่ถูกใช้ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่จะมอบโอกาสในการสร้างกำไรให้แก่การขยับขยายตลาดการชำระเงินด้วยบิตคอยน์ในช่วงเวลาที่มีการคาดการณ์เอาไว้

นอกจากนี้ ในตลาดการชำระเงินด้วยบิตคอยน์ยังแบ่งเป็นหลายภาคส่วน ทั้งการใช้กุญแจ (กุญแจส่วนตัวและกุญแจสาธารณะ) การใช้ส่วนประกอบ (ซอฟต์แวร์, ฮาร์ดแวร์ และการบริการ) ซึ่งการใช้ฮาร์ดแวร์ดังกล่าวจะเป็นเรื่องของการใช้กระเป๋าเงินแบบ Hot Wallet และ Cold Wallet การใช้งาน (E-Commerce, แบบรายย่อย และแบบอื่น ๆ) และในแง่ภูมิภาคต่าง ๆ (อเมริกาเหนือ, ยุโรป, เอเชีย-แปซิฟิก และกลุ่มลาตินอเมริกา-ตะวันออกกลาง-แอฟริกา หรือที่เรียกว่า กลุ่ม LAMEA) 

ซึ่งในปี 2564 ภาคส่วนการใช้กุญแจส่วนตัวเติบโตสูงที่สุด ครองส่วนแบ่งตลาดการชำระเงินด้วยบิตคอยน์ไปถึง 3 ใน 4 และคาดว่าจะยังครองพื้นที่ส่วนใหญ่ไปจนถึงปี 2574 ในขณะที่ภาคส่วนการใช้กุญแจสาธารณะเติบโตในอัตรา CAGR ที่ 20.3% 

นอกจากนี้ ในแง่ของการนำไปใช้งาน ภาคส่วนการใช้งาน E-Commerce หรือการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นครองส่วนแบ่งตลาดโลกมากที่สุดในปี 2564 ซึ่งครองกว่า 40% และคาดว่าจะครองต่อไปในระยะเวลาที่มีการคาดการณ์ ทว่ามีการคาดการณ์เพิ่มเติมว่า ภาคส่วนการค้าปลีกนั้นจะเติบโตไวที่สุดโดยมี CAGR เกือบ 20.2% เลยทีเดียวในกรอบระยะเวลาที่คาดการณ์

ในส่วนของการใช้ส่วนประกอบ การใช้ฮาร์ดแวร์ครองส่วนแบ่งตลาดเกินกว่าครึ่ง ซึ่งมากเป็นอันดับหนึ่งในปี 2564 และคาดว่ายังจะครองต่อไปจนถึงปี 2574 อย่างไรก็ตาม ภาคส่วนที่คาดว่าจะเติบโตเร็วที่สุดคือ ภาคส่วนการบริการด้วยอัตรา CAGR เกือบ 19.8% ในห้วงเวลาคาดการณ์ที่กำหนด

สำหรับแง่ภูมิภาคนั้น เอเชีย-แปซิฟิกครองส่วนแบ่งตลาดในตลาดการชำระเงินด้วยบิตคอยน์สูงที่สุดในปี 2564 ด้วยอัตราเกือบ 40% และเช่นเดียวกันคาดว่าจะยังครองอันดับหนึ่งต่อไปจนถึงปี 2574 และภูมิภาคที่คาดว่าจะมีอัตรา CAGR เร็วที่สุดคือ อเมริกาเหนือ

ในขณะเดียวกันนี้ ตลาดการใช้บิตคอยน์ชำระเงินก็เผชิญกับอุปสรรคและความยากลำบาก โดยรายงานได้เผยว่า ต้นทุนการนำเทคโนโลยีมาใช้ที่สูงและการตระหนักรู้เรื่องการนำบิตคอยน์มาใช้ทั่วโลกที่ต่ำทำให้วงการนี้ก้าวหน้าไปอย่างไม่ราบรื่น

ซึ่งรายงานอธิบายไว้ว่า “เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ได้กระจายการใช้งานไปยังสกุลเงินคริปโตไปจนถึงการใช้งานที่หลากหลายในอุตสาหกรรมการเงินและการปกครอง ถึงกระนั้น ทั้งบุคคล ทั้งอุตสาหกรรมการเงินและการปกครองทั้งหลายในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เช่น อินเดีย แอฟริกา และออสเตรเลียก็ตระหนักรู้น้อยลงในเรื่องการทำธุรกรรมชำระเงินด้วยบิตคอยน์ ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นการขัดขวางการเติบโตของตลาดการชำระเงินด้วยบิตคอยน์ทั่วโลก”