ครบ 1 ปีแล้วที่สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (Central African Republic: CAR) ได้สร้างตำนานบทใหม่ด้วยการกลายเป็นประเทศแห่งที่ 2 ของโลกต่อจากเอลซัลวาดอร์ในการมอบสถานะให้สกุลเงินคริปโตตัวแรกของโลกอย่าง “บิตคอยน์ (Bitcoin: BTC)” เป็นสกุลเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดย ณ ปัจจุบันนี้ CAR กำลังเดินหน้าอย่างเต็มสูบเพื่อนำศักยภาพของบิตคอยน์มาใช้สำหรับการส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจและกอบกู้โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศ

ในขณะเดียวกัน รายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ที่เผยแพร่ออกมาไม่นานนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวกที่ทางหน่วยงานมีต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจของ CAR และผลกระทบจากการใช้บิตคอยน์ในฐานะสกุลเงินถูกกฎหมายด้วยเช่นกัน

รายงานของ IMF ระบุว่า การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) ของ CAR จะฟื้นตัวขึ้น 2.2% ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยบางอย่าง เช่น ผลกระทบจากการเปรียบเทียบข้อมูลในปัจจุบันกับข้อมูลในปีก่อนหน้า (Base Effect) และการปรับปรุงนโยบายซึ่งทำให้อุปทานเชื้อเพลิงมีปริมาณเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ IMF ยังประมาณการด้วยว่า หนี้สาธารณะของ CAR จะยังมีความยั่งยืนอยู่ ถึงกระนั้น รายงานของ IMF กลับระบุว่า ดัชนีชี้วัดระดับความเป็นหนี้เผยให้เห็นว่า CAR มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องสูง โดยความเสี่ยงเหล่านี้มาจากการที่ประเทศมีโอกาสที่จะขาดแคลนเงินช่วยเหลือจากผู้บริจาคและอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดในประเทศและภูมิภาคด้วย

แม้ CAR จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนมากที่สุดในโลก แต่ดินแดนแห่งนี้ยังคงเดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานสกุลเงินคริปโตในประเทศอย่างต่อเนื่องหลังจากที่มีการประกาศให้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้ Faustin-Archange Touadera ประธานาธิบดีของ CAR ได้เปิดตัวโครงการแพลตฟอร์มลงทุนคริปโตแบบถูกกฎหมายอย่าง Sango Project อีกทั้งยังได้เปิดตัวเหรียญคริปโตของประเทศอย่าง Sango Coin ด้วย