Bybit แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโต เตรียมเสนอบริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ระหว่างคู่เงินตราและสกุลเงินคริปโต และบริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโตอื่น ๆ ให้กับผู้ใช้ในประเทศไซปรัสแล้ว หลังจากที่เมื่อไม่นานนี้ทางแพลตฟอร์มได้ออกมายืนยันว่า ตนได้ใบอนุญาตประกอบกิจการในฐานะบริการและแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตในไซปรัสเรียบร้อยแล้ว
ไซปรัสเป็นเกาะที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยมีประชากรทั้งหมด 1.2 ล้านคน ในข่าวประชาสัมพันธ์ Ben Zhou ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Bybit ได้กล่าวถึงความสำคัญของการขยายกิจการของบริษัทไปทั่วโลก และเน้นย้ำถึงบทบาทของสกุลเงินคริปโตในฐานะที่เป็นช่องทางหนึ่งสำหรับการหลีกเลี่ยงระบบการเงินแบบดั้งเดิม
พร้อมกันนี้ Zhou ยังระบุอีกว่า บริษัทรู้สึกตื่นเต้นที่จะนำระบบนิเวศคริปโตมาสู่ชาวไซปรัส นอกจากนี้ Bybit ยังระบุอีกว่า ทางบริษัทเล็งเห็นถึง “ศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของตลาดไซปรัส” และใบอนุญาตที่ได้รับการอนุมัติฉบับใหม่ของบริษัทจะช่วยพัฒนาระบบนิเวศสกุลเงินคริปโตของไซปรัส
นับวันไซปรัสยิ่งแต่จะกลายเป็นประเทศที่มีกิจกรรมการใช้งานสกุลเงินคริปโตมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการผลักดันของรัฐบาลท้องถิ่น โดยก่อนหน้านี้ในปี 2021 ทางการไซปรัสเผยให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเปิดรับสกุลเงินคริปโตและเทคโนโลยีบล็อกเชนด้วยการเสนอร่างกฎหมายว่าด้วยเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology: DLT)
ต่อมาในปี 2022 ที่ผ่านมา Kyriacos Kokkinos รัฐมนตรีช่วยประธานาธิบดีว่าการกระทรวงการวิจัย นวัตกรรม และนโยบายดิจิทัลในตอนนั้น เผยว่า ไซปรัสจะกลายเป็นศูนย์กลางสำหรับเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงบล็อกเชนด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายน 2023 ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของไซปรัสได้ตัดสินใจที่จะไม่ผลักดันร่างกฎหมาย DLT ต่อไปแล้ว นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางไซปรัสยังได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงของคริปโตด้วย โดยปี 2023 นี้ก็ถือเป็นการครบรอบ 1 ทศวรรษแล้วนับตั้งแต่ที่วิกฤตธนาคารในไซปรัสได้ไปหนุนให้ราคาของบิตคอยน์เพิ่มขึ้นถึง 600% เลยทีเดียว
ระดับการใช้งานสกุลเงินคริปโตในไซปรัสนั้นยังคงน้อยอยู่เมื่อเทียบกับประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงในแถบเมดิเตอร์เรเนียนอย่างมอลตา ซึ่งมอลตานั้นมีตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนต่อประชากรหนึ่งรายคิดเป็น 3 เท่าของไซปรัสเลยทีเดียว และยังได้รับการขนานนามให้เป็น “เกาะแห่งบล็อกเชน” ด้วย ในทำนองเดียวกัน เจ้าพ่อบิตคอยน์หลายคนซึ่งรวมถึง Adam Back ยังพูดถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับคริปโตในมอลตาด้วย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Bybit สวนทางกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตอีกรายอย่าง Binance โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ Binance เพิ่งประกาศว่า บริษัทจะยกเลิกการจดทะเบียนในไซปรัสโดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะต้องการให้ความสำคัญกับตลาดที่ใหญ่กว่า เดิมที Binance มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศจีน แต่ ณ ปัจจุบัน บริษัทมีสำนักงานอยู่ทั่วโลกโดยเฉพาะในดินแดนที่เป็นมิตรต่อคริปโตอย่างเมืองดูไบและประเทศบาห์เรน