เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 สำนักข่าว The Wall Street Journal ได้รายงานว่า ศาลล้มละลายได้ขยายการสอบสวน Celsius Network แพลตฟอร์มให้บริการกู้ยืมสกุลเงินคริปโตที่ได้ยื่นล้มละลายไปแล้วหลังจากหยุดให้บริการถอนเงินไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยต้องการจะรู้ว่า การประกอบธุรกิจของ Celsius นั้นเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ หลังจากประสบกับข้อกล่าวหาจากทั้งลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแลหลายรัฐเรื่องแถลงการณ์ที่หลอกลวงเรื่องสถานการณ์การเงิน และการใช้สินทรัพย์ของนักลงทุนหน้าใหม่ในการจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือบัญชีคนอื่น

ในวันเดียวกันนั้น ผู้พิพากษาของศาลล้มละลายได้สั่งให้ Shoba Pillay ผู้ตรวจสอบที่ศาลแต่งตั้งขึ้น และคณะกรรมการของเจ้าหนี้ Celsius หารือกันว่าใครจะเป็นผู้นำการสืบสวนว่าทาง Celsius ได้นำเงินของผู้ใช้บริการไปจ่ายให้กับคนอื่นหรือเปล่า

“ทางเราไม่รู้ว่า Celsius ทำแชร์ลูกโซ่จริงหรือไม่ แต่มีสัญญาณให้เห็นจริง ๆ” Greg Pesce ทนายของคณะกรรมการเจ้าหนี้เผย “ผมขอบอกให้ชัดว่า เรากำลังจะเข้าไปสอบสวนดูว่ามันเป็นจริงหรือไม่ ตอนนี้เราไม่มีคำตอบให้”

ในขณะที่ Pillay ก็จะขยายขอบเขตการสืบสวนเพิ่มเติม โดยจะดูวิธีการทำการตลาดของบริษัทและวิธีการนำเสนอในการดึงดูดลูกค้าใหม่เข้ามา อีกทั้ง วิธีการขายเหรียญคริปโตของบริษัทอย่าง CEL

อย่างไรก็ตาม เอกสารของศาลได้บันทึกความกังวลของทนายฝ่าย Celsius และทนายฝ่ายคณะกรรมการเจ้าหนี้ โดยระบุว่า งานของ Pillay อาจใช้ต้นทุนสูง ใช้เวลานาน รวมถึงจะเป็นการทำงานซ้ำซ้อน ทว่าหน่วยงานกำกับดูแลประจำรัฐเท็กซัสและเวอร์มอนด์ก็ออกมาสนับสนุนว่า ควรให้บุคคลที่สามเฉกเช่น Pillay มาสืบสวนและประกาศผลการสอบสวน อีกทั้ง ผู้พิพากษาก็มองว่า ถ้าหาก Pillay ไม่ได้รับอนุญาตขยายขอบเขตการสืบสวนได้ บริษัทอาจจะได้รับข้อครหาจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งซึ่งจะเสียเงินและเวลาเป็นอย่างมาก

ซึ่งทาง Pillay เองก็ออกมายืนยันว่า ตัวเองสามารถสืบสวนเรื่องแชร์ลูกโซ่ได้ถ้าหากได้รับคำสั่ง ทว่าเธอจะมุ่งหาข้อเท็จจริงเพื่อไขข้อสงสัยเรื่องแชร์ลูกโซ่ แทนที่จะเสนอข้อสรุปทางกฎหมายของตัวเอง โดยในส่วนของศาลนั้นก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องที่ว่าใครจะเป็นผู้นำการสืบสวนประเด็นดังกล่าว แต่ให้ Pillay และคณะกรรมการเจ้าหนี้ไปหารือกันมาและรายงานกลับไปทางศาล