ชุมชนคริปโตกำลังให้ความสนใจกับแอปพลิเคชันสองตัวล่าสุดที่ถูกพัฒนาบนส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์ (Application Programming Interface: API) ของ GPT-4 ซึ่งเป็นโมเดลภาษารุ่นล่าสุดของแชตบอต ChatGPT ที่พัฒนาโดยบริษัทวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ชื่อดังอย่าง OpenAI เป็นอย่างมาก เนื่องจากแอปพลิเคชันสองตัวดังกล่าวได้จุดประกายความคิดในการพัฒนาบอตซื้อขายคริปโตที่มีความสามารถในการแก้ไขและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตัวเองโดยปราศจากความช่วยเหลือของมนุษย์

แอปพลิเคชันสองตัวดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า BabyAGI และ AutoGPT ซึ่งทั้งคู่นั้นกำลังได้รับความสนใจจากชุมชนคริปโตเป็นพิเศษ โดย ณ ขณะนี้ ชาวคริปโตหลายคนกำลังพยายามที่จะสร้างแอปพลิเคชันซื้อขายคริปโตโดยอาศัยระบบของแอปพลิเคชันสองตัวดังกล่าว

BabyAGI และ AutoGPT ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของ GPT-4 ซึ่งในปัจจุบัน GPT-4 มีความเป็นเลิศด้านการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ทว่าโมเดลดังกล่าวไม่มีความสามารถในการจดจำข้อมูล ด้วยเหตุนี้ แอปพลิเคชันที่ใช้ API ของ GPT-4 จึงถูกจำกัดอยู่กับการใช้งานแบบรอบเดียว (Single-Session Use) หรืออาจกล่าวได้ว่า โมเดลดังกล่าวไม่สามารถบันทึกข้อมูลจากการทำงานครั้งก่อนหน้าได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเกี่ยวข้องกับปริมาณข้อมูล (หรือจำนวนโทเคน) ที่เกิดขึ้นจากการสอบถามแต่ละครั้ง บวกกับแนวโน้มที่ GPT จะเริ่มทำงานผิดพลาด ซึ่งเป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดตามจำนวนโทเคนที่เพิ่มขึ้น

โดยทั่วไปผู้ใช้มักจะต้องป้อนข้อมูลเข้าไปใหม่หมดเมื่อไรก็ตามที่พวกเขาสอบถามข้อมูลจากเครื่องมือดังกล่าว ดังนั้น ในแง่ของการสร้างแอปพลิเคชันซื้อขายคริปโตที่สามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลไปตามสภาพตลาดพร้อมกับวิเคราะห์แนวโน้มตลาดในระยะสั้นและระยะยาวได้ จึงหมายความว่า มนุษย์ก็ยังคงจำเป็นจะต้องเข้าไปมีบทบาทสำคัญในการควบคุมบอตซื้อขายอันทรงประสิทธิภาพที่สร้างขึ้นบน API ของ GPT-4

นักพัฒนาผู้ชาญฉลาดบางคนได้ค้นพบวิธีการที่เป็นไปได้ในการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเหล่านี้แล้วด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้ประโยชน์จาก GPT โดยเฉพาะในเรื่องของความสามารถในการสร้างโค้ดและการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลภายนอก

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะมีบอตซื้อขายคริปโตเกิดขึ้นมามากมาย ทว่าเป้าหมายของแอปพลิเคชันบอตซื้อขายคริปโตเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแค่การนำเครื่องมือมาใช้ในการรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับคริปโตโดยอัตโนมัติ หรือการสอนให้เครื่องมือรู้จักสังเกตแนวโน้มตลาดขาลงเท่านั้น

ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน AutoGPT มีการนำ GPT-4 มาใช้เพื่อสร้างโค้ด นอกจากนี้ แอปพลิเคชันดังกล่าวยังใช้ประโยชน์จาก GPT-3.5 ในลักษณะที่คล้ายกับพื้นที่ความทรงจำอีกด้วยเพื่อรวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องมือทั้งสองแบบข้างต้น

ในทำนองเดียวกัน แอปพลิเคชัน BabyAGI มีการรวม GPT-4 เข้ากับโครงสร้างการเขียนโค้ดอย่าง LangChain และฐานข้อมูลสำหรับเวกเตอร์อย่าง Pinecone เพื่อสร้างเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อมอบหมายให้ทำงานที่มีความซับซ้อนโดยไม่สูญเสียการจดจ่อกับเป้าหมายเดิม

โดยแอปพลิเคชันทั้งสองดังกล่าวอาจมีศักยภาพมากพอที่จะทำหน้าที่เป็นรากฐานสำคัญสำหรับแอปพลิเคชันแบบ AI ที่สามารถจัดการพอร์ตโฟลิโอสำหรับการลงทุนในคริปโตของนักลงทุนได้อย่างละเอียดผ่านการใช้ภาษาที่สูงกว่าระดับพื้นฐานเพียงเล็กน้อยในการกระตุ้นการทำงานเพียงเท่านั้น

ก็ต้องยอมรับว่า ทั้ง AutoGPT และ BabyAGI ไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ในตลาดคริปโตโดยเฉพาะ กระนั้นก็ดี ในช่วงที่ผ่านมานี้มีสมาชิกในชุมชนคริปโตหลายคนบนโลกออนไลน์ได้พยายามนำแอปพลิเคชันทั้งสองไปใช้ในการซื้อขายคริปโตแบบอัตโนมัติกันแล้ว