Brian Armstrong ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารสูงสุดของ Coinbase แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโต ได้ขายหุ้นบริษัทจำนวน 29,730 หุ้นในวันที่ 5 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาหนึ่งวันก่อนที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (U.S. Securities and Exchange Commission: SEC) จะยื่นฟ้อง Coinbase ในข้อหาละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์

การขายหุ้นครั้งดังกล่าวถือเป็นเรื่องโชคดีของ Armstrong เนื่องจากภายหลังที่ SEC ยื่นฟ้องแล้ว ในวันเดียวกันมูลค่าหุ้นของ Coinbase ก็ได้ร่วงลงไปถึง 20% เลยทีเดียวในทันที และมีรายงานว่า Armstrong ขายหุ้นบริษัทเป็นประจำอยู่แล้วนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2022 โดยเขาได้ทำการซื้อขายหุ้นภายใต้แผนการตามข้อกำหนด 10b5-1 ของ SEC ซึ่งจะเป็นแผนที่กำหนดเวลาและขนาดธุรกรรมในการซื้อขายหุ้นล่วงหน้าเพื่อป้องกันการซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลภายใน

เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าหุ้นของ Coinbase กับวันที่ Armstrong ซื้อขายหุ้นแล้วพบว่า เขาไม่ได้กำไรจากการซื้อขายหุ้นเสมอไป ดังนั้นจึงอาจอนุมานได้ว่า การซื้อขายหุ้นของ Armstrong ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้วก่อนที่เขาจะทราบข่าวการยื่นฟ้องของ SEC แต่ในทางกลับกัน SEC เองก็อาจรับทราบถึงแผนการซื้อขายหุ้นล่วงหน้าของ Armstrong 

มีรายงานว่า ความมั่งคั่งสุทธิของ Armstrong ได้ลดลงไปถึง 11.8% หลังจากที่ SEC ยื่นฟ้อง Coinbase ส่งผลให้ในตอนนี้ความมั่งคั่งส่วนตัวของเขาเหลือเพียง 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น โดย Armstrong ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes ให้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกลำดับที่ 1,409

สถิติของ Dataroma เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนชื่อดังเปิดเผยว่า ในบรรดาผู้บริหารระดับสูงของ Coinbase มีเพียงแค่สมาชิกคณะกรรมการบริหารของบริษัทอย่าง Tobias Lutke และ Fred Ehrsam เท่านั้นที่ซื้อหุ้นบริษัทในปีที่แล้ว ซึ่งทั้ง Armstrong และ Ehrsam ตกเป็นจำเลยจากการยื่นฟ้องของผู้ถือหุ้น Coinbase รายหนึ่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งกล่าวหาว่า พวกเขาทั้งสองและผู้สนับสนุน Coinbase รายอื่นได้เทขายหุ้นในเดือนเมษายน 2021 ผ่านการเสนอขายหุ้นบริษัทให้แก่ประชาชนทั่วไป ก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเชิงลบ และส่งผลให้หุ้นของ Coinbase ร่วงลง 37%