CoinShares บริษัทผู้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำจากทวีปยุโรป รายงานว่า ทางบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 33% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาส 2/2023 ที่ CoinShares เผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า บริษัทมีรายได้ทั้งหมด 20.3 ล้านปอนด์ในไตรมาสดังกล่าว ซึ่งคิดเป็นประมาณ 25.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
CoinShares ระบุว่า มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (Assets Under Management: AUM) ทั้งหมดของบริษัทยังอยู่ที่ประมาณ 2.1 พันล้านปอนด์ (2.68 พันล้านดอลลาร์) ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทได้นำเครื่องมือ “Ledger Lens” ที่สนับสนุนโดยบริษัทการบัญชีนิรนามแห่งหนึ่งมาใช้ด้วยเพื่อให้นักลงทุนสามารถตรวจสอบสินทรัพย์หนุนหลังของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ (Exchange-Traded Product: ETP) ของบริษัทตามเวลาจริงได้
นอกจากนี้ CoinShares ยังระบุด้วยว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ บริษัทเก็บค่าธรรมเนียมจากการจัดการสินทรัพย์ได้ 10.6 ล้านปอนด์ (13.52 ล้านดอลลาร์) ซึ่งลดลง 25% จากไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 กระนั้นก็ตาม จำนวนดังกล่าวถูกชดเชยด้วยกำไรจากบริการต่าง ๆ ในตลาดทุน เช่น การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ ซึ่งอยู่ที่ 10 ล้านปอนด์ (12.76 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
นอกจากการเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการสินทรัพย์แล้ว CoinShares ยังมีการดำเนินงานด้านการเงินกระจายศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi) การค้ำประกัน (Staking) และการให้กู้ยืมอย่างจริงจังด้วย ซึ่งบริษัทมีรายได้จากการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้เกือบ 9 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 11.48 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เมื่อเทียบกับ 5.7 ล้านปอนด์ (7.27 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2022
อย่างไรก็ตาม รายได้จากการให้บริการสภาพคล่องของ CoinShares กลับลดลงถึง 89% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วมาอยู่ที่ 0.2 ล้านปอนด์ (0.26 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทเชื่อว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการที่ ETP สำหรับบิตคอยน์ (Bitcoin: BTC) ของตนมีเงินไหลออกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ กำไรของ CoinShares สำหรับไตรมาส 2/2023 นั้นอยู่ที่ 5.3 ล้านปอนด์ (6.76 ล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับผลขาดทุน 0.6 ล้านปอนด์ (0.77 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 2/2022
ด้าน Jean-Marie Mognetti ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ CoinShares เชื่อว่า ความเคลื่อนไหวด้านการกำกับดูแลในไตรมาสที่ผ่านมา เช่น คดีความของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (United States Securities and Exchange Commission: SEC) ต่อแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตอย่าง Binance และ Coinbase อาจเป็นเหตุการณ์เชิงบวกสำหรับบริษัทต่าง ๆ ในแวดวงการเงินแบบดั้งเดิม
โดย Mognetti ระบุว่า การกระทำของ SEC อาจ “เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ด้านการกำกับดูแลเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจจำกัดการเข้าถึงสถาบันที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลต่าง ๆ ที่เคยชินกับการดำเนินงานในสภาพแวดล้อมด้านกฎกำกับดูแลและกฎหมายที่ซับซ้อน เช่น องค์กรการเงินแบบดั้งเดิม (Traditional Finance: TradFi)”