นับตั้งแต่ปี 2014 จำนวนตู้กดคริปโตเพิ่มมากขึ้นในอัตราคงที่ทุก ๆ ปี ซึ่งมีรายงานว่า ในเดือนธันวาคม 2020 ถึงเดือนมกราคม 2022 มีการติดตั้งตู้กดสกุลเงินคริปโตและบิตคอยน์มากกว่า 1,000 ตู้ต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดคริปโตเริ่มเข้าสู่สภาวะซบเซา จำนวนตู้กดคริปโตก็ได้เริ่มมีจำนวนลดลง โดยเดือนกันยายน 2022 เป็นครั้งแรกที่มีจำนวนตู้กดคริปโตลดน้อยลง และในปี 2023 ตู้กดคริปโตมีจำนวนลดลงมากที่สุดเป็นสถิติใหม่หลังจากที่เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีจำนวนตู้กดคริปโตลดลงเป็นเวลาสองเดือนติดต่อกัน โดยลดลงไป 289 ตู้ในเดือนมกราคมและ 123 ตู้ในเดือนกุมภาพันธ์ รวมเป็น 412 ตู้

ซึ่งการลดลงของจำนวนตู้กดคริปโตนี้มีสาเหตุมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การสูญเสียรายได้ และตลาดหมีที่ยังคงยืดเยื้อ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ให้บริการหลายรายเริ่มมองหาลู่ทางที่จะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินกิจการลง เช่น ผู้ให้บริการด้านตู้กดคริปโตอย่าง Bitcoin Depot ได้แปลงตู้กดคริปโตจำนวน 7,000 ตู้เป็นซอฟต์แวร์ BitAccess ซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินการไปถึง 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ถึงกระนั้น ก็ยังมีข่าวดี เนื่องจากบริษัทผู้ให้บริการชำระเงินชื่อดังอย่าง Mastercard ก็เพิ่งจะได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตอย่าง Binance ในการเปิดตัวบัตรชำระเงินด้วยคริปโตในภูมิภาคลาตินอเมริกันเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2023 ที่ผ่านมา โดย Guilherme Nazar ผู้จัดการทั่วไปของ Binance Brazil ได้กล่าวว่า “การชำระเงินเป็นกรณีใช้งานคริปโตแรก ๆ ที่เห็นได้ชัดเป็นอันดับต้น ๆ แต่การนำมาใช้งานยังคงมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก”