ระบบนิเวศของอุตสาหกรรมคริปโตถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิดที่ว่า ไม่มีหน่วยงานหรือธนาคารใดควรเป็นผู้รับผิดชอบการเงินของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่จนกว่าแนวคิดนั้นจะกลายเป็นจริง ธนาคารแบบดั้งเดิมยังคงต้องทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างการเงินแบบรวมศูนย์และการเงินแบบกระจายศูนย์ก่อน

การปิดตัวของธนาคารที่เป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมคริปโตอย่าง Silvergate Bank, Silicon Valley Bank (SVB) และ Signature Bank จะทำให้อุตสาหกรรมคริปโตปวดหัวอย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทคริปโตหลายแห่งต้องค้นหาพันธมิตรด้านการธนาคารใหม่ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะมีบริษัทหรือหน่วยงานขนาดใหญ่ไหนอยากจะยื่นมือเข้ามาในอุตสาหกรรมคริปโตเร็ว ๆ นี้หรือไม่

Ilya Volkov ผู้บริหารสูงสุดและผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มข้ามชาติผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตกระจายศูนย์ Web3, คริปโต และสกุลเงินตราอย่าง YouHodler กล่าวว่า “สำหรับตอนนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า สถาบันการเงินรายใดจะเป็นพันธมิตรกับบริษัทคริปโตหลังจากที่ Silvergate, SVB และ Signature Bank ได้ล้มลงไป” นอกจากนี้ Volkov ยังเสริมด้วยว่า “อุตสาหกรรมกำลังหมดทางเลือกและจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขในเร็ว ๆ นี้ เพื่อป้องกันปัญหาเพิ่มเติม” พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้นักลงทุนจำนวนมากเกิดความกลัว

อย่างไรก็ตาม การทยอยล้มลงของธนาคารที่เป็นมิตรกับคริปโตก็ไม่น่าจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมคริปโตในระยะยาว เนื่องจากจะมีธนาคารอื่น ๆ ที่อาจจะเข้ามาเชื่อมเป็นสะพานทดแทน โดย Andrei Grachev หุ้นส่วนผู้จัดการของผู้สร้างสภาพคล่องให้ตลาด (Market Maker) สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง DWF Labs กล่าวว่า สภาพคล่องของอุตสาหกรรมคริปโตมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่นี่เป็นโอกาสของธนาคารรายอื่นที่จะก้าวขึ้นมาแทนที่ SVB, Silvergate และ Signature

นักวิเคราะห์บางรายยังมองว่า นี่ยังไม่ใช่จุดจบของอุตสาหกรรมคริปโต เนื่องจากบริษัทด้านการเงินอย่าง Circle ซึ่งเป็นผู้สร้างสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Stablecoin อย่าง USDC ยังคงเอาตัวรอดจากการที่ USDC หลุดจากการตรึงมูลค่าที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาได้ หลังจากที่มีการเปิดเผยว่า เงินสดสำรองของ USDC ประมาณ 3.3 พันล้านดอลลาร์ฝากอยู่ใน SVB และไม่สามารถสร้างหรือแลก USDC ผ่านผลิตภัณฑ์ Signet ของ Signature ได้อีกต่อไป แต่ทาง Circle ก็ยังสามารถมองหาธนาคารพันธมิตรรายใหม่อย่าง Cross River Bank ได้เพื่อให้ธุรกิจของตนยังคงดำเนินต่อไป

นอกจากนี้ Brent Xu ผู้บริหารสูงสุดและผู้ก่อตั้ง Umee โพรโทคอลการเงินกระจายศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi) แบบข้ามบล็อกเชนได้กล่าวว่า “ธนาคารในอนาคตควรทำงานอยู่บนบล็อกเชน ซึ่งหมายความว่า ธนาคารกำลังจะเริ่มมีลักษณะคล้ายกับบล็อกเชนมากกว่าที่จะเป็นหน่วยงานรวมศูนย์เพียงอย่างเดียว” ซึ่งเขาเชื่อว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้ธนาคารมี “ตัวชี้วัดบนเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของพวกเขาในหลักทรัพย์เผื่อขาย (Available for Sale: AFS) เช่น พันธบัตรรัฐบาล และจะช่วยให้มีตัวชี้วัดบนเครือข่ายที่ดีขึ้นสำหรับกิจกรรมการจัดการเงินสดของพวกเขา”

Xu ยังได้กล่าวว่า “ผมอยู่ในวงการนี้มานาน ข่าวนี้ไม่ทำให้ผมประหลาดใจจนถึงจุดที่เรารู้สึกชินชาต่อผลกระทบ” พร้อมทั้งกล่าวว่า นี่ไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุดของการธนาคารด้านคริปโต แต่สถาบันการเงินที่ไม่ปรับตัวตามเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง