Nick James นักวิจัยประจำศูนย์วิทยาการข้อมูลของมหาวิทยาลัย University of Melbourne และ Max Menzies ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของสถาบันวิจัย Beijing Institute of Mathematical Sciences and Applications ในสังกัดของมหาวิทยาลัย Tsinghua University ได้เผยแพร่งานวิจัยที่จัดทำร่วมกันที่มีชื่อว่า “Collective dynamics, diversification and optimal portfolio construction for cryptocurrencies”

James และ Menzies ได้จัดทำวิจัยดังกล่าวเพื่อค้นคว้าว่า สกุลเงินคริปโตมีบทบาทอย่างไรในการกระจายความเสี่ยงการลงทุนของพอร์ตโฟลิโอ และตลาดสกุลเงินคริปโตมีลักษณะอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดตราสารทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งพวกเขาได้ข้อสรุปว่า แม้ทั้งสองตลาดจะยังมีความแตกต่างที่สำคัญอยู่ แต่ตลาดคริปโตเริ่มมีสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตเต็มที่อย่างชัดเจนแล้ว

ทีมงานวิจัยดังกล่าวใช้วิธีศึกษาที่เรียกว่า “พลวัตกลุ่ม (Collective Dynamics)” เพื่อทำความเข้าใจกับคุณสมบัติทางคณิตศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ในตลาดคริปโตและตราสารทุนโดยเน้นที่การวัดปฏิสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มข้อมูลที่เรียกว่า “การแบ่งกลุ่มข้อมูลแบบลำดับชั้น (Hierarchical Clustering)” ซึ่งพวกเขาได้วัดการกระจายการลงทุนในพอร์ตการลงทุนในตลาดทั้งสองเพื่อเปรียบเทียบตลาดดังกล่าว

โดยจากการวิจัยพบว่า ตลาดทั้งสองมีการแบ่งกลุ่มแบบลำดับชั้นที่คล้ายคลึงกัน นอกจากนี้ ผู้จัดทำวิจัยทั้งสองรายยังระบุด้วยว่า มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า พอร์ตโฟลิโอสำหรับการลงทุนคริปโตที่ “คุ้มค่า” ที่สุดนั้นมีอยู่จริง โดยจากข้อมูลของผู้จัดทำวิจัย เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สกุลเงินคริปโตอาจมีเกณฑ์ความซับซ้อนที่ต่ำกว่าสำหรับการกระจายความเสี่ยง

ผู้จัดทำวิจัยทั้งสองระบุว่า ตลาดคริปโตถูกเรียกว่า “ตลาดที่ยังเติบโตไม่เต็มที่” เนื่องจากยังคงมีความผันผวนมาก และในบางครั้งตลาดคริปโตยังขาดความเป็นเหตุเป็นผลและความสอดคล้องด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดคริปโตเริ่มแสดงสัญญาณของการเติบโตอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ยังคงอยู่ห่างไกลจากตลาดตราสารทุนอยู่

นอกจากนี้ James และ Menzies ยังได้หยิบยกประเด็นเกี่ยวกับฟังก์ชันทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์คริปโตอันคลุมเครือด้วย โดยพวกเขาระบุว่า วัฏจักรธุรกิจที่เกี่ยวข้องนั้น “มีความชัดเจนน้อยกว่ามาก” กว่าในตลาดตราสารทุน และพวกเขายังได้ระบุถึงความจำเป็นในการ “พัฒนาหลักการลงทุนสินทรัพย์คริปโตที่แพร่หลายอย่างกว้างขวางและเป็นที่เข้าใจมากยิ่งขึ้น”