เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา Paxos ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเครือข่ายบล็อกเชนได้เผยแพร่ผลสำรวจออนไลน์ซึ่งจัดทำขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเพื่อสำรวจว่า ฤดูหนาวของคริปโตและ “ผลพวงจากการล่มสลายครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม” ในปี 2022 ซึ่งรวมไปถึงการล้มละลายของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตอย่าง FTX และบริษัทในเครือ Alameda Research ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในแวดวงคริปโตอย่างไร

โดย Paxos ได้กล่าวว่า “ปี 2022 เป็นปีที่เกิดความผันผวนสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ราคาของ Bitcoin (BTC) ขึ้นไปแตะจุดเกือบสูงสุดและจุดเกือบต่ำสุด ไปจนถึงผลพวงจากการล้มละลายครั้งใหญ่ของบริษัทในอุตสาหกรรมอย่างเช่น Terra, FTX, Alameda Research และบริษัทอื่น ๆ”

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจพบว่า ผู้ทำแบบสำรวจที่ทราบและติดตามข่าวการล่มสลายของบริษัท FTX มากกว่าครึ่ง (57%) วางแผนที่จะซื้อคริปโตเพิ่มหรือไม่ทำอะไรเลยหลังจากทราบข่าวดังกล่าว นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ทำแบบสำรวจกว่า 89% ยังคงไว้วางใจให้ “ตัวกลาง” เช่น “ธนาคาร, แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโต และ/หรือแอปพลิเคชันชำระเงินบนโทรศัพท์มือถือ” เก็บรักษาคริปโตของตน

ยิ่งไปกว่านั้น ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ทำแบบสำรวจมีความต้องการที่จะซื้อ Bitcoin , Ether (ETH) และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ จากธนาคารชื่อดังหรือธนาคารในโลกการเงินดั้งเดิมเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดย 75% ของผู้ทำแบบสำรวจระบุว่า พวกเขา “มีแนวโน้มหรือมีความเป็นไปได้สูง” ที่จะซื้อคริปโตจากธนาคารหลักที่ตนใช้บริการอยู่หากทางธนาคารเสนอขายคริปโต และ Paxos ยังได้กล่าวเสริมว่า “ผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 45% บอกว่า พวกเขาจะมีแรงกระตุ้นให้ลงทุนในคริปโตมากยิ่งขึ้น หากมีการนำคริปโตไปใช้ในกระแสหลักมากขึ้นในหมู่ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ”

ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 มกราคม 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่คลื่นพายุลูกใหญ่ (Head Wind) เมื่อเร็ว ๆ นี้จะเกิดขึ้น เช่น การล้มละลายของผู้ให้บริการกู้ยืมคริปโตอย่าง Genesis, การปราบปรามสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Stablecoin อย่าง Binance USD (BUSD) ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัท Paxos และความไม่แน่นอนทางการเงินของธนาคารคริปโตอย่าง Silvergate Capital