เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา Glassnode แพลตฟอร์มให้บริการข้อมูลด้านบล็อกเชนออกมาเผยว่า ที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตที่มีการเก็บบิตคอยน์ (Bitcoin: BTC) เอาไว้ 1 BTC หรือมากกว่ามีจำนวนมากเกิน 1 ล้านที่อยู่แล้ว

นับตั้งแต่ที่มูลค่าของบิตคอยน์ลดลงมากกว่า 65% ในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา จำนวนที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตที่มีบิตคอยน์ตั้งแต่ 1 BTC ขึ้นไปก็พุ่งสูงขึ้น โดยช่วงที่พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมากที่สุดคือช่วงเดือนมิถุนายนที่เกิดวิกฤตกับตลาดคริปโตและตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตอย่าง FTX ทรุดตัวลงและยื่นล้มละลายในเวลาต่อมา

บัญชีผู้ใช้ Twitter ที่ชื่อว่า @Negentropic ซึ่งเป็นบัญชีผู้ใช้ Twitter ของผู้ร่วมก่อตั้ง Glassnode ได้ทวีตข้อความเพื่อบอกกับผู้ติดตามของเขากว่า 54,000 คนว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อบิตคอยน์คือช่วงที่ “เลือดนองเต็มถนน” หรือก็คือช่วงที่กำลังเกิดวิกฤตนั่นเอง

โดยความเห็นดังกล่าวของเขามีขึ้นหลังจากที่ธนาคารรายใหญ่หลายแห่งในสหรัฐอเมริกาล่มสลาย อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve: Fed) ยังเตรียมที่จะอาจหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลบางส่วนที่ทำให้เขามั่นใจว่า ราคาของบิตคอยน์อาจกลับขึ้นไปแตะที่ระดับ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐได้อย่างแน่นอนในระยะกลาง

อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตที่มี 1 BTC จะแตะ 1 ล้านที่อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า กระเป๋าเงินคริปโต 1 ที่อยู่จะถูกครอบครองโดยคน 1 คน เนื่องจากนักลงทุนคริปโตจำนวนมากมีกระเป๋าเงินคริปโตหลายใบ และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตและบริษัทด้านการลงทุนขนาดใหญ่หลายแห่งก็มีกระเป๋าเงินคริปโตหลายใบที่มักจะมีบิตคอยน์จำนวนมากด้วยเช่นกัน

จากข้อมูลของ CoinGlass แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลด้านคริปโตระบุว่า จากจำนวนบิตคอยน์ทั้งหมดประมาณ 19 ล้าน BTC ที่กำลังหมุนเวียนอยู่ในปัจจุบัน 1.89 ล้าน BTC หรือประมาณ 50.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐถือครองโดยแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตใหญ่ ๆ อย่างเช่น Coinbase และ Binance 

นอกจากนี้ Glassnode ยังคาดการณ์ว่า บิตคอยน์จำนวน 3 ล้าน BTC หรือประมาณ 80.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 17% ของอุปทานบิตคอยน์ที่หมุนเวียนอยู่ทั้งหมดนั้น “สูญหายไปตลอดกาล” ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวอิงจากข้อมูลต่าง ๆ เช่น จำนวนบิตคอยน์ที่ส่งไปยัง “ที่อยู่กระเป๋าเงินสำหรับการเผาเหรียญ” กระเป๋าเงินที่กุญแจส่วนตัว (Private Key) สูญหาย และจำนวนบัญชีขนาดใหญ่ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมานานนับทศวรรษ