เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2023 ที่ผ่านมา Chamath Palihapitiya มหาเศรษฐีแห่งวงการเทคโนโลยีและอดีตผู้บริหารระดับสูงในช่วงแรกของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ได้ออกมากล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจในรายการพอดแคสต์ “All-In” ว่า อุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐอเมริกานั้น “ตายแล้ว”

โดยการกล่าวอ้างดังกล่าวของ Palihapitiya เกิดขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่า แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตในสหรัฐอเมริกาอย่าง Coinbase กำลังพิจารณาที่จะย้ายบริษัทไปยังต่างประเทศ โดยเขาได้ระบุว่า ต้นเหตุของเรื่องนี้คือ Gary Gensler ประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (U.S. Securities Exchange Commission: SEC) เนื่องจากเขาได้บีบต้อนอุตสาหกรรมคริปโตให้ไร้ซึ่งหนทางและต้องหนีตายนั่นเอง

เมื่อเดือนมีนาคม 2023 ที่ผ่านมา SEC ได้มีการออกหนังสือแจ้งเตือนแผนการดำเนินการทางกฎหมาย (Wells Notice) ไปถึง Coinbase ซึ่งบอกเป็นนัยว่า SEC อาจมีการดำเนินคดีกับ Coinbase โทษฐานที่บริษัทอาจจะมีการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่ง Brian Armstrong ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Coinbase ก็ได้ออกมาเผยว่า หากมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น บริษัทของตนก็พร้อมที่จะสู้คดี

Palihapitiya กล่าวว่า ตัวเขาไม่เข้าใจว่า ทำไม Coinbase ซึ่งเป็นบริษัทที่ “ทำตามกฎ” “ไม่แตกแถว” และ “พยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง” ถึงไม่ได้เข้าใกล้กับความชัดเจนด้านกฎระเบียบไปมากกว่าแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ได้ล้มละลายไปอย่าง FTX 

นอกจากนี้ Palihapitiya ยังได้ระบุด้วยว่า อุตสาหกรรมคริปโตอาจมีการท้าทายขนบธรรมเนียมและบรรทัดฐานที่เกินหน้าเกินตาอุตสาหกรรมอื่น ๆ จึงทำให้ SEC เพ่งเล็งอุตสาหกรรมคริปโตมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น

ด้าน David Sacks หนึ่งในผู้ดำเนินรายการ All-In ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาอาจมีความพยายามที่จะกีดกันอุตสาหกรรมคริปโต เพราะว่าคริปโตอาจเติบโตจนไปลดความสำคัญของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ แต่ผลกระทบโดยรวมจากการกระทำดังกล่าวจะเป็นผลกระทบเชิงลบ

ขณะที่ผู้ดำเนินรายการคนอื่น ๆ ก็ได้อธิบายว่า ปัญหาด้านการกำกับดูแลคริปโตในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันเป็น “Operation Choke Point 2.0” ซึ่งหมายถึงการที่หน่วยงานกำกับดูแลพยายามที่จะกีดกันธนาคารจากการถือครองคริปโตหรือการให้บริการแก่บริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมคริปโตนั่นเอง