หลังจากที่ Binance แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตระดับโลกและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทอย่าง Changpeng 'CZ' Zhao ถูกคณะกรรมาธิการกำกับดูแลการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐ (Commodity Futures Trading Commission: CFTC) ยื่นฟ้องโทษฐานมีส่วนร่วมในการซื้อขายสินทรัพย์และกระบวนการปฏิบัติตามกฎหมายที่ไม่เหมาะสมเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2023 ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา Zhao ก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของ CFTC ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทแล้ว

Zhao ระบุว่า การยื่นฟ้องของ CFTC เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังและเหนือความคาดหมาย เนื่องจากบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับทางหน่วยงานมาเป็นระยะเวลามากกว่า 2 ปี พร้อมกับระบุว่า ข้อกล่าวหาของ CFTC นั้นเป็นการแจกแจงข้อเท็จจริงที่ไม่ครบถ้วน

ในเอกสารฟ้องร้อง CFTC กล่าวหาว่า Binance ได้ซื้อขายสินทรัพย์บนแพลตฟอร์มของตนผ่านบัญชีภายในของบริษัท 300 บัญชี และไม่ได้เปิดเผยข้อมูลให้ลูกค้าทราบอย่างถี่ถ้วนในเงื่อนไขการใช้บริการแพลตฟอร์มว่า ตนกำลังซื้อขายสินทรัพย์ในตลาดของตน โดย Binance ได้ปิดปังเรื่องดังกล่าวเป็น “ความลับสูงสุด” และทางบริษัทก็ได้ปฏิเสธที่จะตอบกลับหมายเรียกสืบสวนของ CFTC ซึ่งต้องการให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการซื้อขายสินทรัพย์ของตน

CFTC แถลงว่า “จากข้อมูลและความเชื่อ Binance ไม่ได้ควบคุมกิจกรรมซื้อขายของ Merit Peak และ Sigma Chain (บริษัทผู้ดูแลสภาพคล่องที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Zhao) รวมถึงบัญชีภายในของบริษัทราว 300 บัญชีภายใต้การสอดส่องดูแลหรือการควบคุมเพื่อต่อต้านการปั่นราคาสินทรัพย์หรือการหลอกลวง”

กระนั้นก็ดี Zhao ชี้แจงว่า Binance ไม่ได้ซื้อขายสินทรัพย์เพื่อทำกำไรหรือครอบงำตลาดแต่อย่างใด ทว่าบริษัทซื้อขายสินทรัพย์ในหลายสถานการณ์ ด้วยความที่รายได้ของบริษัทอยู่ในสกุลเงินคริปโต ดังนั้น บริษัทจึงต้องแปลงสินทรัพย์เหล่านี้เป็นบางครั้งเพื่อนำมาใช้ชำระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เป็นเงินตรา (Fiat) หรือสกุลเงินคริปโตอื่น ๆ นอกจากนี้ Zhao ยังระบุด้วยว่า “โดยส่วนตัว ผมมีบัญชี 2 บัญชีกับ Binance: บัญชีหนึ่งมีไว้สำหรับบัตรเดบิตคริปโต Binance Card ส่วนอีกบัญชีมีไว้สำหรับถือคริปโตของผม ผมใช้บริการและผลิตภัณฑ์จากบริษัทของพวกเราเอง และเก็บคริปโตไว้กับ Binance.com นอกจากนี้ ผมยังจำเป็นต้องแปลงคริปโตเป็นบางครั้งเพื่อนำเงินไปชำระค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่าง ๆ หรือชำระเงินค่าบัตรเดบิตคริปโตด้วย”

ไม่เพียงเท่านั้น Zhao ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของ CFTC ที่ระบุว่า พนักงานของเขามีส่วนร่วมใน “การซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน” ด้วย โดยเขาระบุว่า Binance มีกฎห้ามพนักงานซื้อขายรายวันเป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ทำการซื้อขายครั้งล่าสุด พร้อมทั้งเสริมว่า “กฎดังกล่าวมีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานซื้อขายอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ เรายังห้ามไม่ให้พนักงานซื้อขายใน Futures (ช่องทางซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าบน Binance) ด้วย”

Zhao กล่าวต่อไปว่า Binance มีนโยบายที่เข้มงวดสำหรับใครก็ตามที่เข้าถึงข้อมูลลับของบริษัท เช่น รายละเอียดการลิสต์เหรียญคริปโต ซึ่งพวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายคริปโตเหล่านั้นเลย พร้อมกันนี้ Zhao ระบุว่า “ผมปฏิบัติตามนโยบายเหล่านี้ด้วยตัวเองอย่างเคร่งครัด อีกทั้งผมยังไม่เคยเข้าไปมีส่วนร่วมในผลิตภัณฑ์ Launchpad, Earn, Margin หรือ Futures ของ Binance แต่อย่างใด ผมรู้ว่า การใช้เวลาที่ดีที่สุดของผมคือ การสร้างแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งที่เสนอบริการให้กับผู้ใช้งานของเรา”

ยิ่งไปกว่านั้น CFTC ยังกล่าวหาว่า พนักงานระดับสูงของ Binance ได้ “เปิดทางให้เกิดการละเมิดกฎหมายของสหรัฐฯ อย่างแข็งขัน” ซึ่งรวมถึง “การช่วยเหลือและการชี้นำ” ให้ลูกค้าในสหรัฐฯ มีช่องทางในการหลีกเลี่ยงมาตรการด้านการปฏิบัติตามกฎหมายของ Binance พร้อมทั้งยังระบุอีกว่า โปรแกรมการปฏิบัติตามกฎหมายของ Binance นั้นเป็นเพียง “ละครตบตา” เท่านั้น

ถึงกระนั้น CZ ปฏิเสธว่า บริษัทไม่ได้มีการปล่อยปะละเลยในการปฏิบัติตามกฎหมายแต่อย่างใด พร้อมทั้งระบุว่า Binance ได้พัฒนาเทคโนโลยีชนิดที่ดีที่สุดเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย และ ณ ปัจจุบันนี้ ทางบริษัทก็มีพนักงานมากกว่า 750 คนที่รับผิดชอบด้านการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อรับประกันว่า บริษัทจะดำเนินธุรกิจภายใต้ขอบเขตของกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน (Anti-Money Laundering: AML) และการทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC)