Tim Beiko หนึ่งในนักพัฒนาหลักของ Ethereum ได้เผยในการประชุม Ethereum Core Developers Meeting ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ว่า ทางทีมพัฒนามีมติที่จะให้ความสำคัญกับการอัปเกรด Shanghai ก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความล่าช้าในกรณีที่แผนพัฒนา Ethereum (Ethereum Improvement Proposal: EIP) ที่เกี่ยวข้องกับการอัปเกรด The Surge อย่าง EIP-4844 เสร็จไม่ทันเวลา

Beiko กล่าวผ่าน Twitter ว่า นักพัฒนา Ethereum ทุกคนตกลงที่จะ “(1) เห็นการอัปเกรด Shanghai เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยจะเป็นการดีที่สุดหากเกิดขึ้นราว ๆ เดือนมีนาคม และ (2) ค่อยดำเนินการแยกตัวบล็อกเชน (Fork) ที่มี EIP-4844 เป็นศูนย์กลางหลังจากการอัปเกรดดังกล่าว”

การอัปเกรด Shanghai นั้นเป็นเป้าหมายสำคัญต่อไปของ Ethereum ซึ่งจะทำให้เครือข่ายมีความสามารถใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเปิดให้ผู้ค้ำประกัน (Stake) เหรียญ ETH และผู้ตรวจสอบธุรกรรมบนเครือข่ายสามารถถอน ETH ออกจาก Beacon Chain ได้

โดยในตอนแรกนั้น คาดกันว่า EIP-4844 จะรวมอยู่ในการอัปเกรด Shanghai ด้วย ซึ่ง EIP-4844 หรือที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Proto-Danksharding จะเข้ามายกระดับความสามารถในการขยายการรองรับปริมาณธุรกรรม (Scalability) ของบล็อกเชน Layer 2 บน Ethereum ก่อนที่จะเกิดการอัปเกรดครั้งใหญ่อย่าง Sharding แบบเต็มตัวในช่วงปลายปีหน้า

แม้ว่า EIP-4844 จะไม่รวมอยู่ในการอัปเกรด Shanghai แต่ทางทีมนักพัฒนาก็มีมติเห็นชอบที่จะรวมชุด EIP อย่าง EVM Object Format (EOF) เข้ามาด้วย ซึ่ง EOF จะพัฒนา Ethereum Virtual Machine (EVM) โดยนำรูปแบบสัญญา EVM ใหม่ ระบบแยกรหัสและข้อมูลออกจากกัน และรหัสปฏิบัติการใหม่ ๆ มาใช้ ซึ่ง Beiko อธิบายว่า EOF ถอนออกจาก Shanghai ได้ง่าย โดยถ้า EOF ยังไม่พร้อมในขณะที่ Shanghai นั้นพร้อมแล้ว ทางทีมก็สามารถถอน EOF ออกมาได้สบาย ๆ

นอกจาก EOF ยังจะมีชุด EIP อีกชุดที่ทางทีมนักพัฒนา Ethereum ได้มีมติเห็นชอบไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ที่จะเปิดตัวออกมาควบคู่กับ Shanghai อีกด้วย ซึ่งชุด EIP ดังกล่าวประกอบไปด้วย EIP-3651: Warm Coinbase, EIP-3855: PUSH0 instruction, EIP-3860: Limit and meter initcode และ EIP-4895: Beacon chain push withdrawals as operations