หลังจากที่รัฐสภายุโรป (European Parliament) ได้เลื่อนการลงคะแนนเสียงผ่านกฎหมาย Markets in Crypto-Assets Act หรือ MiCA ซึ่งเป็นกฎหมายการกำกับดูแลสกุลเงินคริปโตของสหภาพยุโรป (European Union: EU) ในรอบสุดท้ายออกไปถึง 2 ครั้งติดต่อกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2023 ที่ผ่านมา ทางรัฐสภาก็ได้เปิดให้มีการลงคะแนนเสียงดังกล่าวแล้ว

โดยในการลงคะแนนเสียง มีคะแนนเสียงที่เห็นชอบการผ่านกฎหมาย MiCA จำนวน 517 เสียง และไม่เห็นชอบ 38 เสียง นั่นเท่ากับว่า รัฐสภายุโรปเห็นชอบการผ่านกฎหมายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม กฎหมาย MiCA จะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากคณะมนตรียุโรป (European Council) โดย Stefan Berger ผู้เสนอรายงานเกี่ยวกับ MiCA และสมาชิกรัฐสภายุโรป ก็ได้ออกมาเผยหลังการลงคะแนนเสียงว่า กฎหมาย MiCA เป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต 

ทั้งนี้ Chainalysis บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลบล็อกเชน ระบุว่า บทบัญญัติเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin ของ MiCA จะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคมปี 2024 ขณะที่บทบัญญัติอื่น ๆ เช่น กฎเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์คริปโต จะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคมปี 2025

ผู้กำหนดนโยบายของยุโรปมีเป้าหมายเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่เป็นมาตรฐานและสร้างกฎเกณฑ์ที่สอดคล้องกันสำหรับสกุลเงินคริปโตในระดับ EU ด้วยการบัญญัติกฎหมาย MiCA ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมคริปโตและนักลงทุนได้รับการคุ้มครองด้วยกฎหมายที่มีความชัดเจน

กฎหมาย MiCA จะกำหนดแนวทางสำหรับการประกอบธุรกิจ โครงสร้าง และการบริหารจัดการของบริษัทที่ออกโทเคนสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่เพียงเท่านั้น กฎหมายดังกล่าวยังจะเสนอกฎเกณฑ์เกี่ยวกับข้อกำหนดด้านความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการออกและซื้อขายสกุลเงินคริปโตอีกด้วย

แม้หลายฝ่ายจะมองว่า กฎหมาย MiCA จะมีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมคริปโต แต่กฎหมายดังกล่าวก็ยังมีช่องโหว่หลายอย่าง โดยเอกสารฉบับร่างของกฎหมายดังกล่าวในปัจจุบันนั้นไม่มีการพูดถึงการเงินกระจายศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi) และแวดวงการให้กู้ยืมและการค้ำประกัน (Staking) คริปโตที่กำลังเติบโตขึ้น รวมถึงไม่ระบุกฎเกณฑ์สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Non-Fungible Token (NFT) ด้วย