เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 บริษัท FTX Trading ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตอย่าง FTX.com ซึ่งยื่นล้มละลายไปแล้ว ร่วมกับบริษัทในเครืออีก 101 แห่ง (เรียกรวมกันว่า ลูกหนี้ FTX) ได้ประกาศว่า บริษัทลูกของ FTX ทั่วโลกส่วนใหญ่จะกลับมาชำระเงินให้กับลูกจ้างของบริษัทตามปกติแล้ว

โดย John J. Ray III ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของ FTX กล่าวว่า “เนื่องจากศาลได้อนุมัติคำร้อง First Day ของเราแล้ว และงานในส่วนของการบริหารเงินสดทั่วโลกกำลังดำเนินอยู่ ผมรู้สึกยินดีที่ทางกลุ่มบริษัท FTX จะดำเนินการชำระเงินสด ได้แก่ ค่าจ้างและเงินสวัสดิการ ให้กับลูกจ้างที่เหลืออยู่ทั่วโลกของเราตามปกติแล้ว นอกจากนี้ FTX ยังจะชำระเงินสดให้กับผู้ค้าและผู้ให้บริการนอกสหรัฐฯ บางรายตามที่จำเป็นเพื่อรักษาการดำเนินธุรกิจภายใต้ข้อจำกัดที่อนุมัติโดยศาลล้มละลายอีกด้วย”

จากคำประกาศดังกล่าว หมายความว่า ลูกจ้างและผู้รับจ้างของ FTX จะได้รับค่าจ้างสำหรับระยะเวลาการทำงานเกือบสามสัปดาห์นับตั้งแต่ที่ทางบริษัทน่าจะหยุดชำระค่าจ้างไปตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทยื่นล้มละลาย

คำประกาศนี้ออกมาหลังจากที่เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ลูกหนี้ FTX ได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายในรัฐเดลาแวร์เพื่อที่จะชำระค่าชดเชยสำหรับช่วงก่อนการยื่นล้มละลายและเงินสวัสดิการให้กับลูกจ้างและผู้รับจ้าง แต่จะไม่มีการชำระเงินให้กับอดีตผู้บริหารในเครือ FTX ที่ก้าวลงจากตำแหน่งไปในช่วงที่บริษัทยื่นล้มละลาย เช่น Sam Bankman-Fried, Caroline Ellison, Gary Wang และ Nishad Singh แต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 บริษัท FTX Trading ประกาศว่า ทางบริษัทได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายแบบชั่วคราวสำหรับคำร้องชุด "First Day" ทั้งหมดที่ยื่นต่อศาลแล้ว โดยคำร้องชุดดังกล่าวเป็นคำร้องเกี่ยวกับการยื่นล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนของ FTX ซึ่ง Ray คาดว่า คำร้องชุดนี้จะช่วยเร่งให้ลูกหนี้ FTX ชำระเงินคืนแก่ผู้มีหุ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการล้มลงของแพลตฟอร์ม FTX เช่น ผู้ใช้แพลตฟอร์มและเจ้าหนี้ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมเผยว่า การซื้อหุ้นของ FTX ที่อาจเกิดขึ้นอาจจะส่งผลดีต่อผู้มีหุ้นส่วนในอีกไม่นาน แต่ถึงกระนั้น นักกฎหมายด้านการล้มละลายบางรายก็เตือนว่า กระบวนการดังกล่าวอาจใช้เวลาหลายปีหรืออาจเป็นสิบปี เนื่องการล้มละลายของ FTX นั้นมีขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนมาก