ราคาทองคำแตะ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 1 ปี แต่การที่จะคงราคาดังกล่าวเอาไว้ให้ยาวนานและการทำสถิติสูงสุดใหม่ได้นั้นอาจต้องใช้ระยะเวลาที่มากขึ้น

สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) ที่จะหมดอายุลงในเดือนเมษายนบนตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าอย่าง Comex มีราคาอยู่ที่ 1,982.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์ หรือ 0.5% โดยราคาสูงสุดในรอบการซื้อขายดังกล่าวอยู่ที่ 2,014.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่ทองคำขึ้นไปแตะระดับ 2,015.10 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 10 มีนาคม 2022

ราคาทองคำ Spot อยู่ที่ 1,978.76 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อช่วงเช้ามืดตามเวลาประเทศไทย ลดลง 10.58 ดอลลาร์สหรัฐหรือ 0.5% โดยราคาสูงสุดในรอบการซื้อขายดังกล่าวอยู่ที่ 2,009.84 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี

ราคาทองพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่วิกฤตด้านธนาคารของสหรัฐฯ ปะทุขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว โดยสถาบันประกันเงินฝากสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corporation) ได้เข้าแทรกแซงการดำเนินกิจการของธนาคารสหรัฐฯ ขนาดกลาง 2 แห่ง ได้แก่ Silicon Valley Bank และ Signature Bank หลังจากที่ผู้ฝากเงินได้แห่ถอนเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐออกจากธนาคารเหล่านี้ เนื่องจากพวกเขากลัวว่า ธนาคารทั้งสองแห่งดังกล่าวอาจจะกำลังล้มละลาย นอกจากนี้ วิกฤตด้านธนาคารยังลุกลามไปถึงทวีปยุโรปด้วย โดย Credit Suisse หนึ่งในธนาคารที่มีชื่อเสียงระดับโลก ต้องขอความช่วยเหลือจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (Swiss National Bank) 

ด้าน Sunil Kumar Dixit หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านเทคนิคของ SKCharting.com เว็บไซต์ให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศ กล่าวว่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำในตลาด Comex จะทำสถิติสูงสุดใหม่เหนือระดับ 2,078.80 ดอลลาร์สหรัฐ และราคาทองคำ Spot จะทำจุดสูงสุดใหม่ให้เหนือ 2,072.90 ดอลลาร์สหรัฐได้ก็ต่อเมื่อราคาจะดีดตัวเพิ่มขึ้นเหมือนในรอบการซื้อขายที่ผ่าน ๆ มาเพื่อที่จะผลักดันราคาให้สูงขึ้นไปอีก 

Dixit ยังกล่าวต่อไปว่า “ทองคำยังคงมีการเคลื่อนไหวในเชิงบวก แม้ว่าราคาจะลดลง 45 ดอลลาร์จากราคาสูงสุดระหว่างวัน (Intraday) ที่ 2010 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการคำนวณราคาแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ 1,965 ดอลลาร์สหรัฐ” อีกทั้งเจ้าตัวยังเสริมว่า การย่อตัวของราคาทองคำจากระดับสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสัญญาณดีมาก และการที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าจะทำราคาสูงอย่างต่อเนื่องอาจต้องใช้เวลาอีกสักเล็กน้อยเพื่อสร้างสถิติใหม่ แต่ก็ไม่นานจนเกินไป นอกจากนี้ Dixit ยังเสริมอีกว่า ความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงสู่ระดับ 1,960-1,950 ดอลลาร์สหรัฐยังคงมีอยู่เหมือนเดิม แต่ผู้ซื้อมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อทองคำมากขึ้น ซึ่งจะช่วยดันราคาทองคำให้สูงขึ้นอีกครั้งจนไปทดสอบแนวต้านที่ 2,010 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าหากเลยระดับดังกล่าวไป เป้าหมายแรกของราคาทองคำก็จะอยู่ที่ 2,040 ดอลลาร์สหรัฐ 

นอกจากนี้ การตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve: Fed) ในการประชุมวันที่ 22 มีนาคม 2023 ก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์คาดว่า Fed จะอนุมัติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดที่ 5% และจะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อรายปีที่ 6% ในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม วิกฤตด้านการธนาคารในสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบต่อแผนการดังกล่าวของ Fed เนื่องจากนักวิเคราะห์ต่างกล่าวโทษว่า วิกฤตดังกล่าวเกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลให้ขณะนี้ Fed ได้รับแรงกดดันให้หยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ถึงกระนั้น ประธาน Fed อย่าง Jerome Powell ก็ยังไม่ได้ส่งสัญญาณว่า เขาจะไม่ยอมฟังข้อเรียกร้องดังกล่าวแต่อย่างใด