John Ray III ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของ FTX แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตที่เพิ่งยื่นล้มละลายไป ได้ยื่นเอกสารคำประกาศทางการเกี่ยวกับการยื่นล้มละลายของ FTX ภายใต้หมวด 11 (Chapter 11) ให้กับศาลล้มละลายสหรัฐในรัฐเดลาแวร์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 โดยเขาก็ได้เปิดเผยเรื่องการปฏิบัติที่ไม่โปร่งใสและไม่ถูกต้องมากมายของ Sam Bankman-Fried (SBF) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนก่อนหน้าของ FTX และบริษัทในเครือ FTX ผ่านเอกสารดังกล่าวด้วย

คำประกาศของ Ray III เผยว่า SBF และ Nishad Singh ผู้อำนวยการด้านวิศวกรรมของ FTX ได้รับสินเชื่อส่วนบุคคลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและ 543 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับจาก Alameda Research บริษัทในเครือของ FTX ซึ่งให้บริการด้านการเทรด

นอกจากนี้ บริษัทในเครือ FTX ยังไม่รักษาการควบคุมเงินสดแบบรวมศูนย์ ไม่รักษาความถูกต้องของรายการบัญชีธนาคาร และไม่เอาใจใส่เรื่องฐานะการเงินที่เชื่อถือได้ของพันธมิตรด้านการธนาคารมากเพียงพอ โดย Ray III ได้แสดงความกังวลถึงงบการเงินของกลุ่มบริษัทที่เรียกว่า Dotcom ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัท FTX Trading Ltd และกลุ่มแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ดำเนินการภายใต้ชื่อ FTX.com อีกทั้งยังไม่พบเจองบการเงินที่ได้รับการตรวจสอบของ Alameda Research และกลุ่มบริษัท Ventures ที่ประกอบไปด้วย Clifton Bay Investments LLC and Ltd, Island Bay Ventures Inc. และ Debtor FTX Ventures Ltd อีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น Ray III ยังระบุว่า การใช้จ่ายเงินทุนของบริษัทในเครือ FTX นั้นมีความผิดปกติมาก โดยมีการนำเงินขององค์กรไปซื้อบ้านและของส่วนตัวให้พนักงานและที่ปรึกษาของบริษัท อีกทั้งยังได้พูดถึงตัวอย่างพฤติกรรมที่พนักงานของ FTX ส่งคำขอชำระเงินให้กับผู้ดูแลผ่านแพลตฟอร์มส่งข้อความออนไลน์ ซึ่งผู้ดูแลเหล่านั้นก็จะอนุมัติคำขอด้วยการตอบกลับเป็นอีโมจิอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น เอกสารการยื่นล้มละลายภายใต้หมวด 11 ของ FTX ยังเผยถึงการเก็บรักษาคริปโตที่ไร้ระบบของทางบริษัท โดยไม่มีข้อมูลบันทึกและการควบคุมด้านความปลอดภัยมากเพียงพอ พร้อมกันนี้ Ray III ยังเผยถึง “การกระทำที่รับไม่ได้” ของ FTX ซึ่งรวมไปถึงการใช้อีเมลกลุ่มที่ไม่ปลอดภัยในการเข้าถึงกุญแจส่วนตัว (Private Key) ที่เป็นความลับและข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสูง อีกทั้งทาง FTX ยังไม่เผยรายงานพิสูจน์ยอดคริปโตที่ตนเองถือในทุก ๆ วันอีกด้วย