Chainalysis บริษัทวิเคราะห์ด้านบล็อกเชน ได้เผยข้อมูลวิเคราะห์ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสกุลเงินคริปโตของการล้มละลายเมื่อเร็ว ๆ นี้ของ FTX อดีตแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตยักษ์ใหญ่ โดยได้หยิบยกตัวอย่างจาก Mt. Gox แพลตฟอร์มซื้อขายบิตคอยน์ที่ล่มสลายไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2557 มาเปรียบเทียบ

โดย Chainalysis ได้นำคำวิเคราะห์ของ Eric Jardine หัวหน้าฝ่ายวิจัยของทางบริษัทมาเผยผ่าน Twitter เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งคำวิเคราะห์ดังกล่าวก็เปิดหัวมาด้วยการเปรียบเทียบส่วนแบ่งในตลาดของ Mt. Gox และ FTX ซึ่งก็พบว่า Mt. Gox มีเงินหลั่งไหลเข้าสู่แพลตฟอร์มโดยเฉลี่ยเมื่อเทียบกับทั้งตลาดอยู่ที่ 46% ในปีก่อนหน้าที่แพลตฟอร์มจะล้มลง ในขณะที่ FTX มีอยู่ 13% ทำให้เห็นได้ชัดว่า Mt. Gox มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า FTX ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เนื่องจากการล้มของ Mt. Gox ก็ไม่ได้ทำให้ตลาดคริปโตตายไปด้วย แม้ Mt. Gox จะมีขนาดใหญ่กว่า FTX เมื่อเทียบกับตลาด ณ เวลาที่ล้ม

อย่างไรก็ดี คำวิเคราะห์ดังกล่าวระบุว่า การเติบโตของธุรกิจแพลตฟอร์มก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา โดยเผยว่า ส่วนแบ่งในปริมาณการทำกิจกรรมบนแพลตฟอร์มทั้งหมดในตลาดของทั้งสองแพลตฟอร์มกำลังเคลื่อนที่สวนทางกันในช่วงก่อนล่มสลาย ในขณะที่ของ Mt. Gox นั้นกำลังค่อย ๆ ลดลง ส่วนของ FTX กลับค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ การล้มของ FTX จึงอาจกระทบความมั่นใจของตลาดมากกว่าการล้มของ Mt. Gox

นอกจากนี้ แม้ว่าส่วนแบ่งในตลาดด้านจำนวนเงินที่ไหลเข้าแพลตฟอร์มของ Mt. Gox จะมีมากกว่า FTX แต่ส่วนแบ่งตลาดดังกล่าวของ Mt. Gox ก็กำลังลดลงในช่วงที่ขนาดตลาดกำลังขยายตัว ในขณะที่ FTX มีส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงที่ตลาดกำลังหดตัวลง

ทว่าสุดท้ายแล้ว Mt. Gox ก็มีส่วนแบ่งในตลาดโดยรวมมากกว่า FTX อยู่ดี ณ ช่วงที่แพลตฟอร์มทั้งสองล่มสลาย โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการที่เมื่อปี 2557 ตลาดยังไม่มีแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Exchange: DEX) ทำให้แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchange: CEX) อย่าง Mt. Gox ครองส่วนแบ่งในตลาดได้สูง ในขณะที่ในช่วงปลายปี 2565 ที่ FTX ล้ม ส่วนแบ่งในตลาดเกือบ 50% ตกเป็นของ DEX 

คำวิเคราะห์ของ Jardine ยังเสริมข้อมูลอีกว่า หลังจากที่ Mt. Gox ล้มลงไปเป็นเวลาราว ๆ 1 ปี ตลาดคริปโตก็ฟื้นตัวกลับมาได้ และหลังจากนั้นอีกไม่นานก็โตขึ้นเป็นสองเท่าของขนาดตลาด ณ ช่วงก่อนการล่มสลายของ Mt. Gox เสียอีก เขาจึงสรุปว่า การวิเคราะห์นี้น่าจะมอบมุมมองในแง่ดีให้กับตลาด โดยถึงแม้ว่าการล้มลงของสองแพลตฟอร์มดังกล่าวจะมีข้อแตกต่างกันอื่น ๆ อีก เช่น การที่ Sam Bankman-Fried อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ FTX ผู้ที่หลายคนยกให้เป็นหน้าตาของตลาดคริปโต ถูกตรวจพบว่าฉ้อโกงทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตลาดได้ แต่เมื่อพิจารณาพื้นฐานตลาดเพียงอย่างเดียวแล้ว จะเห็นว่า ตลาดเคยผ่านช่วงที่หนักกว่านี้มาแล้ว และก็ไม่มีเหตุผลที่ตลาดจะกลับมาแข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมาไม่ได้