เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2023 ที่ผ่านมา แพลตฟอร์มรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล DappRadar ได้เปิดเผยว่า ปริมาณการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Non-Fungible Token (NFT) ลดลงฮวบหลังจากธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ล้ม โดยช่วงเวลาก่อนที่ SVB จะล้ม NFT มีปริมาณการแลกเปลี่ยนอยู่ที่ราว 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐถึง 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หลังจากที่ธนาคาร SVB ได้ปิดตัวลงในวันที่ 10 มีนาคม ปริมาณการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวก็ลดลงเหลือเพียง 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นในวันที่ 12 มีนาคม

นอกจากนี้ จำนวนการขาย NFT รายวันยังลดลงถึง 27.9% ในช่วงระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม พร้อมทั้งในวันที่ 11 มีนาคม มีจำนวนนักเทรด NFT ที่เคลื่อนไหวเพียง 11,440 รายเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021

รายงานของ DappRadar ยังได้เผยว่า สาเหตุที่นักลงทุน NFT มีจำนวนน้อยลงในวันดังกล่าวเป็นเพราะสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Stablecoin อย่าง USD Coin (USDC) ได้หลุดการตรึงมูลค่าจาก 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญมาเหลือเพียง 0.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ ทำให้ความสนใจของนักลงทุนหันเหไปยัง USDC แทน

แต่ถึงแม้ปริมาณการแลกเปลี่ยน NFT จะลดน้อยลง แต่มูลค่าของ NFT ที่ “มีชื่อเสียง” กลับไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด โดยราคาพื้น (Floor Price) ของคอลเลกชัน NFT ชื่อดังอย่าง Bored Apes Yacht Club (BAYC) และ CryptoPunks ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่ง Greg Solano ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Yuga Lab ที่อยู่เบื้องหลัง BAYC ได้ออกมาให้เหตุผลว่า สาเหตุที่คอลเลกชัน BAYC ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยนั้นเป็นเพราะว่า บริษัทมีเงินอยู่ใน SVB น้อยมาก

อย่างไรก็ตาม ราคาพื้นของคอลเลกชัน NFT อย่าง Moonbirds บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน NFT อย่าง OpenSea กลับลดลงจาก 6.18 ETH เหลือเพียง 4 ETH เท่านั้น หลังมีข่าวว่า กลุ่มผู้สร้างคอลเลกชัน Moonbirds อย่าง PROOF มีเงินติดอยู่ใน SVB เป็นจำนวนมาก