วันนี้ (23 สิงหาคม 2023) ธนาคารกลางแห่งประเทศออสเตรเลีย (Reserve Bank of Australia: RBA) และสถาบันวิจัยสหกรณ์การเงินดิจิทัล (Digital Finance Cooperative Research Centre: DFCRC) ได้เปิดเผยรายงานผลการศึกษากรณีการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) หลังได้ทดลองใช้งานในโครงการนำร่องไปก่อนหน้านี้
โครงการนำร่องการใช้งาน CBDC ดังกล่าวเผยให้เห็นถึงประเด็นหลัก 4 ประการที่ CBDC สามารถเข้ามาช่วยปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ ซึ่งรวมไปถึงการช่วยให้เกิดการชำระเงินที่ “ชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น” ด้วย กล่าวคือ CBDC แบบโทเคนจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับข้อตกลงการชำระเงินอันซับซ้อนต่าง ๆ ที่ยังไม่ถูกรองรับโดยระบบการชำระเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน และการออกโทเคนแทนสินทรัพย์
ยิ่งไปกว่านั้น รายงานของ RBA ยังระบุว่า CBDC อาจช่วยสนับสนุนนวัตกรรมทางการเงินในด้านต่าง ๆ เช่น ตลาดตราสารหนี้ อีกทั้งยังอาจส่งเสริมนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเงินดิจิทัลของภาคเอกชนที่เกิดขึ้นใหม่ และยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและการเข้าถึงบริการทางการเงินภายในเศรษฐกิจดิจิทัลในภาพที่กว้างขึ้นด้วย
ข้อมูลจากบริษัท 16 แห่งที่เข้าร่วมโครงการนำร่อง CBDC ดังกล่าวยังเน้นย้ำถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ของ CBDC ในการทำให้เกิด “การชำระหนี้แบบฉับพลัน (Atomic Settlement)” อีกด้วย นอกจากนี้ ความสามารถในการป้อนคำสั่งโปรแกรมยังเป็นสิ่งที่ถูกกล่าวถึงว่าเป็นข้อดีอีกอย่างที่ CBDC จะมอบให้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากสกุลเงินดังกล่าวจะช่วย “ปรับปรุงประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในกระบวนการทางธุรกิจที่ซับซ้อนหลายอย่างได้"
โครงการนำร่องใช้งาน CBDC ได้รับการวางแนวทางให้เป็นการอ้างสิทธิทางกฎหมายเหนือ RBA เท่านั้น มิใช่การพิสูจน์แนวคิดแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ จึงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของโครงการและการปฏิบัติด้านการกำกับดูแลต่อผู้เข้าร่วมโครงการด้วย
“ผู้เข้าร่วมบางคนไม่แน่ใจว่า พวกเขากำลังให้บริการด้านการดูแลสินทรัพย์หรือกำลังซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับการควบคุมดูแล เนื่องจากการถือครองหรือการซื้อขาย CBDC ของโครงการนำร่อง” รายงานดังกล่าวระบุ และยังระบุต่อว่า “ปัญหาเหล่านี้จะได้รับการคาดการณ์และแก้ไขโดยสมบูรณ์ผ่านการปฏิรูปกฎหมายและกฎระเบียบที่มาพร้อมกับการออก CBDC”
ทั้งนี้ แม้รายงานดังกล่าวจะเผยให้เห็นถึงประโยชน์ของ CBDC ในบางแง่มุม แต่ก็ยอมรับว่า ประโยชน์เหล่านี้สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยวิธีการอื่น ๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งรวมไปถึงการใช้เงินฝากธนาคารในรูปแบบโทเคนที่ภาคเอกชนเป็นผู้ออกหรือสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Stablecoin ที่มีสินทรัพย์อื่นหนุนหลังอยู่
โดยรวมแล้ว รายงานดังกล่าวระบุว่า แม้ว่าการเปิดตัว CBDC จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแข็งแกร่งในบางแง่มุมของระบบนิเวศการชำระเงินในประเทศออสเตรเลีย แต่ยังจำเป็นที่จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นได้อื่น ๆ