เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา Tether บริษัทเจ้าของสกุลเงินคริปโตประเภท Stablecoin อย่าง USDT ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดในวงการและเป็นเหรียญดิจิทัลที่มีมูลค่าตามราคาตลาดมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ได้ออกแถลงการณ์สั้นผ่านเว็บไซต์ของตัวเองว่าด้วยการที่บริษัทของตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือการลงทุนใด ๆ ในแพลตฟอร์มให้กู้ยืมสกุลเงินคริปโตระดับสถาบันอย่าง Genesis Global หรือโปรแกรม Gemini Earn ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตอย่าง Gemini

ซึ่งก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ทาง Genesis Global ได้ประกาศผ่านทาง Twitter ว่า จะมีการระงับการถอนและการปล่อยกู้ใหม่ชั่วคราว เนื่องจาก “ความปั่นป่วนในตลาดที่คาดไม่ถึง” จากการล่มสลายของ FTX ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อโปรแกรม Gemini Earn ด้วยเนื่องจาก Genesis Global เป็นผู้ร่วมให้บริการโปรแกรมดังกล่าว โดย Gemini ประกาศว่า Gemini Earn จะไม่สามารถให้ผู้ใช้บริการถอนเงินได้เป็นเวลา 5 วัน

โดยแถลงการณ์ดังกล่าวของ Tether ระบุว่า “Tether อยากจะยืนยันว่า ทางบริษัทไม่มีเอี่ยวด้านการเงินกับ Genesis หรือ Gemini Earn แต่อย่างใด โทเคนของ Tether ได้รับการหนุนจากกองทุนสำรองของบริษัท 100%” และสินทรัพย์ที่หนุนกองทุนสำรองนั้นก็มีมากเกินพอ อีกทั้งยังเสริมอีกว่า “ช่วงเวลาแบบนี้ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเน้นย้ำว่า กองทุนสำรองของเราได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความทนทานจริงตลอดมาต่อความผันผวนที่คาดไม่ถึง ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดในช่วงปีที่ผ่านมา”

การแถลงการณ์ดังกล่าวของ Tether นี้ถือเป็นการแสดงความโปร่งใส โดยก่อนหน้านั้น ทาง Tether เคยมีประเด็นเรื่องเกี่ยวกับความโปร่งใสมาแล้ว เนื่องจากทางบริษัทไม่ยอมพิสูจน์เรื่องเงินทุนสำรองที่หนุนเหรียญ Stablecoin ของตนจากการร้องเรียนของกลุ่มนักลงทุน และก็มีคดีความเกิดขึ้น สุดท้าย Tether ก็แพ้คดีในศาลแขวงประจำเขตทางใต้ของรัฐนิวยอร์กจึงสั่งให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในท้ายที่สุด