ข่าวการล้มลงในช่วงใกล้ ๆ กันของธนาคาร Silvergate Bank, Silicon Valley Bank (SVB) และ Signature Bank ถือเป็นข่าวใหญ่ประจำวงการสกุลเงินคริปโต รวมถึงวงการการเงินและการลงทุนโลกในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากธนาคารทั้งสามเป็นธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐฯ ที่มีความสำคัญต่อระบบธนาคารของประเทศพอสมควร อีกทั้ง 2 ใน 3 แห่งดังกล่าวยังมีความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับบริษัทคริปโตหลายแห่งในประเทศอีกด้วย ในบทความนี้ เราจึงจะพาคุณไปไล่เรียงลำดับเหตุการณ์การล้มลงของธนาคาร 3 แห่งนี้กันเพื่อที่จะได้ทราบความเป็นมาของวิกฤตการณ์ในครั้งนี้


Silvergate Bank

  • Silvergate Bank เป็นธนาคารที่เป็นมิตรต่อคริปโต โดยได้เริ่มเข้ามาลงทุนในบิตคอยน์ในช่วงปี 2014 อีกทั้งยังให้บริการทางการเงินแก่บริษัทด้านคริปโตหลายแห่ง
  • มกราคม 2023 สำนักข่าว The Wall Street Journal รายงานว่า ลูกค้าของ Silvergate Bank ถอนเงินออกจากธนาคาร 8.1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปี 2022 หลังจากแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่าง FTX ล้มละลาย ส่งผลให้ธนาคารต้องยอมขายสินทรัพย์ของตนในราคาขาดทุนเพื่อหาเงินมาดำเนินธุรกิจต่อ
  • มกราคม 2023 ทางธนาคารรายงานว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปี 2022 รวมถึงยังได้ปลดพนักงานออก 40% อีกด้วย
  • 1 มีนาคม 2023 ทางธนาคารยื่นหนังสือชี้แจงว่า บริษัทจะเลื่อนการส่งรายงานงบการเงินประจำปีอย่าง 10-K สำหรับปี 2022 ออกไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์ อีกทั้งยังระบุว่า ผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทนั้นแย่กว่าเดิม และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ส่งผลกระทบต่อความสามารถของบริษัทในการที่จะดำเนินธุรกิจต่อไป
  • 2 มีนาคม 2023 บริษัทคริปโตหลายแห่ง เช่น Coinbase, Paxos และ Galaxy พร้อมใจกันประกาศยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ Silvergate Bank เนื่องจากกังวลว่า ทางธนาคารจะล้มละลาย
  • 8 มีนาคม 2023 Silvergate Capital Corporation บริษัทแม่ของ Silvergate Bank ประกาศยุติกิจการและชำระบัญชีธนาคาร Silvergate Bank เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในอุตสาหกรรมและสถานการณ์ด้านการกำกับดูแล โดยจะมีการชำระคืนเงินฝากทั้งหมดให้กับลูกค้า 


Silicon Valley Bank

  • Silicon Valley Bank (SVB) เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 16 ของสหรัฐฯ
  • พฤศจิกายน 2022 ธนาคาร JPMorgan Chase เตือนว่า “ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Loss) มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ” ของ SVB อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ร้ายแรง
  • 27 กุมภาพันธ์ 2023 ผู้บริหารสูงสุดของ SVB อย่าง Greg Becker ขายหุ้นของบริษัทจำนวน 12,451 หุ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 3.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนที่จะมีการเปิดเผยมูลค่าการขาดทุนของบริษัท
  • ต่อมา Moody’s Investors Service บริษัทด้านการบริหารความเสี่ยง ได้บอกกับผู้บริหารของ SVB ทางบริษัทเตรียมจะลดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของทางธนาคาร พร้อมกับบังคับให้ทางธนาคารติดต่อธนาคารยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนอย่าง Goldman Sachs เพื่อรวบรวมแผนการเพิ่มทุนและบรรเทาความหวาดกลัวของนักลงทุน
  • 8 มีนาคม 2023 ความพยายามดังกล่าวไม่เป็นผลสำเร็จ และในวันเดียวกันนั้น SVB กล่าวว่าจะระดมทุน 2.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหลังจากขาดทุนหลังหักภาษี 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการเดิมพันในหลักทรัพย์ต่าง ๆ
  • 9 มีนาคม 2023 สื่อต่าง ๆ ตีพิมพ์ข่าวเรื่องวิกฤตเงินสดและความพยายามของ SVB ในการหยุดความตื่นกลัวของนักลงทุน จากนั้นธนาคารได้ออกมาประกาศว่ากำลังเฟ้นหาผู้ซื้อกิจการ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
  • 10 มีนาคม 2023 ลูกค้าจำนวนมากแห่ถอนเงิน (Bank Run) ออกจาก SVB ทำให้ธนาคารล้มละลาย สถาบันประกันเงินฝากสหรัฐ (United States Federal Deposit Insurasnce Corporation: FDIC) จึงเข้ายึดสินทรัพย์ของ SVB ซึ่งนับเป็นการล้มละลายของธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดต่อจากธนาคาร Washington Mutual ที่ได้ล้มละลายในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 


Signature Bank

  • Signature Bank เป็นธนาคารระดับภูมิภาคที่ตั้งอยู่ในมหานครนิวยอร์กที่ได้กลายมาเป็นผู้นำในการให้กู้ยืมสกุลเงินดิจิทัล
  • 9 มีนาคม 2022 Signature Bank ได้ประกาศข้อมูลทางการเงินใหม่และกล่าวว่า ทางธนาคารได้จำกัดยอดฝากคริปโตแล้วเพื่อที่จะกระจายความเสี่ยง โดยบอกกับนักลงทุนว่า “เราต้องการพูดให้ชัดเจนอีกครั้งว่า Signature Bank เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างดีและให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ โดยได้ให้บริการที่ยอดเยี่ยมแก่ธุรกิจระดับกลางตลาดมาเป็นเวลานานกว่า 2 ทศวรรษแล้ว”
  • 10 มีนาคม 2022 หุ้นของ Signature Bank ร่วงลงเกือบ 25% เหลือ 70 ดอลลาร์ และยังถูกระงับการซื้อขายเป็นเวลาสั้น ๆ ในช่วงเช้าของวันดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวน ทำให้ลูกค้าธนาคารรีบไปถอนเงินฝากของตนออกมา
  • 12 มีนาคม 2023 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสหรัฐฯ ได้สั่งปิด Signature Bank โดยให้เหตุผลว่า การเปิดธนาคารต่อไปอาจคุกคามเสถียรภาพของระบบการเงินทั้งหมด โดยกระทรวงการคลังสหรัฐ, ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve: Fed) และ FDIC ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อประกาศคุ้มครองเงินฝากของลูกค้า SVB และ Signature Bank 
  • 13 มีนาคม 2023 โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ออกมาพูดสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารของประเทศ และสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือลูกค้าของ SVB และ Signature Bank ที่ล้มละลายไปแล้ว
  • การปิดตัวของ Signature Bank เป็นการล่มสลายของธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดอันดับที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ โดยเกิดขึ้นหลังจากอันดับ 2 ซึ่งก็คือ การล้มละลายของ SVB เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น