เมื่อไม่นานนี้ Ripple (XRP) ได้กลายเป็นสกุลเงินคริปโตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ตามมูลค่ารวมตามราคาตลาด (Market Capitalization) แล้วหลังจากที่ Ripple Labs บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังคริปโตดังกล่าวสามารถเอาชนะสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (Securities and Exchange Commission: SEC) ได้ส่วนหนึ่งในการตัดสินคดีความเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา

ในวันดังกล่าว ศาลแขวงสหรัฐสำหรับเขตทางตอนใต้ของรัฐนิวยอร์กตัดสินในคดีความที่พัวพันกับ SEC และ Ripple Labs ว่า “การเสนอและการขาย XRP บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลไม่เท่ากับเป็นการเสนอและการขายสัญญาการลงทุน” 

ภายในเวลา 3 ชั่วโมงนับจากนั้น มูลค่ารวมตามราคาตลาดของ XRP ก็ได้เพิ่มขึ้นถึง 21.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจนทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบปีที่ 46.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งผลักดันให้เหรียญขึ้นนำ USD Coin (USDC) ของบริษัท Circle และ BNB ของบริษัท Binance จากลำดับที่ 7 มาอยู่ที่ลำดับที่ 4 ของตลาดคริปโตได้ในท้ายที่สุด

ในทำนองเดียวกัน ข้อมูลจากแพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลสินทรัพย์อย่าง TradingView ระบุว่า ราคาของ XRP ได้เพิ่มขึ้นสูงจนไปถึง 0.93 ดอลลาร์หลังจากคำตัดสินดังกล่าวของศาล ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากถึง 98% เลยทีเดียว

กระนั้นก็ตาม ณ เวลาที่เขียนข่าวนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลคริปโตอย่าง CoinMarketCap ระบุว่า มูลค่ารวมตามราคาตลาดของ XRP ได้ลดลงมาอยู่ที่ 40.8 พันล้านดอลลาร์แล้ว 

การแห่ซื้อ XRP โดยนักลงทุนอย่างชัดเจนไม่ได้เพียงแต่จะทำให้ราคาของเหรียญนี้พุ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตสัญชาติอเมริกันอย่าง Uphold ล่มด้วย เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ว่ากันว่า Uphold เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่งในสหรัฐอเมริกาที่ยังคงเสนอขาย XRP อย่างต่อเนื่องท่ามกลางกระแสที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ นำสกุลเงินคริปโตดังกล่าวออกจากแพลตฟอร์ม

ถึงกระนั้น คำตัดสินของศาลในครั้งนี้ได้จุดประกายกระแสการนำเหรียญ XRP กลับเข้ามาซื้อขายบนแพลตฟอร์มอีกครั้งในหมู่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตชั้นนำในสหรัฐอเมริกา เช่น Coinbase, Kraken และ iTrustCapital