เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2023 ที่ผ่านมา สำนักข่าวในประเทศซิมบับเวอย่าง The Sunday Mail รายงานว่า ธนาคารกลางของประเทศซิมบับเว (Reserve Bank of Zimbabwe: RBZ) เตรียมที่จะนำสกุลเงินดิจิทัลที่หนุนหลังด้วยทองคำมาใช้เป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย (Legal Tender) ในประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพของสกุลเงินทางการของประเทศหลังจากมีการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถนำสกุลเงินดอลลาร์ซิมบับเวจำนวนเล็กน้อยไปแลกเป็นโทเคนทองคำดิจิทัลได้ ซึ่งจะช่วยให้ชาวซิมบับเวสามารถป้องกันความผันผวนของสกุลเงินดังกล่าวได้ ซึ่งผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศซิมบับเวอย่าง John Mangudya ได้กล่าวว่า แผนดังกล่าวตั้งใจจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

สกุลเงินของประเทศซิมบับเวมีการซื้อขายอยู่ที่ 1,001 ดอลลาร์ซิมบับเวต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ตามปกติสกุลเงินดังกล่าวมักจะมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1,750 ดอลลาร์ซิมบับเวต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐบนท้องถนนของเมือง Harare ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศซิมบับเว และยังมีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีของประเทศซิมบับเวแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีในเดือนมีนาคมที่ 87.6% ลดลงจาก 92% ในเดือนกุมภาพันธ์อีกด้วย

Mangudya คาดการณ์ว่า อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดซื้อขายสกุลเงินแบบคู่ขนานจะเริ่มมีเสถียรภาพหลังจากที่ผู้ปลูกพืชยาสูบได้รับเงินเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และเขายังได้ระบุว่า ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในปัจจุบันนั้นเกิดจาก “ความคาดหวังว่า อุปทานเงินตราต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น" ในตลาดซื้อขายสกุลเงินดังกล่าวเนื่องจากกำลังอยู่ในฤดูการค้าขายยาสูบ

สำนักข่าว Wall Street Journal (WSJ) รายงานในเดือนมีนาคมว่า วิกฤตการณ์ทางการเงินในซิมบับเวและการขาดการเปลี่ยนแปลงทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศเริ่มมีการพิมพ์ “เงินของตัวเอง” ออกมาโดยมักจะใช้เศษกระดาษที่เขียนด้วยลายมือเพื่อให้ผู้ใช้นำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าในอนาคต

ประเทศซิมบับเวได้ต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อและความผันผวนของค่าเงินมานานนับทศวรรษแล้ว โดยเมื่อปี 2009 ประเทศซิมบับเวได้นำสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมาใช้เป็นสกุลเงินของประเทศหลังจากเกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรง และในปี 2019 ประเทศซิมบับเวมีการนำสกุลเงินดอลลาร์ซิมบับเวกลับมาใช้อีกครั้งด้วยความพยายามที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ของประเทศ อย่างไรก็ตาม ในปี 2022 รัฐบาลซิมบับเวก็ได้ตัดสินใจกลับไปใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอีกครั้งเพื่อควบคุมราคาสินค้าที่สูงขึ้นในประเทศ

หลาย ๆ ประเทศในทวีปแอฟริกาเริ่มนำสกุลเงินคริปโตมาใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นสืบเนื่องจากความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยมีรายงานว่า แอฟริกาเหนือและตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการใช้คริปโตเพิ่มขึ้นเร็วที่สุด ซึ่งเป็นผลมาจากการโอนเงินข้ามพรมแดน โดยมีธุรกรรมคริปโตมูลค่ามากกว่า 566 พันล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างเดือนกรกฎาคม 2021 ถึงเดือนมิถุนายน 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้น 48% จากปีก่อนหน้านั้น