เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2023 ที่ผ่านมา ‘อีลอน มัสก์’ ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Tesla และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Twitter ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Twitter ว่า เขาเตรียมจะฟ้องบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft หลังจาก Microsoft ประกาศว่า ทางบริษัทจะยุติการรองรับ Twitter บนแพลตฟอร์มเครื่องมือการโฆษณาออนไลน์ของตนอย่าง Smart Campaigns และ Multi-platform ในวันที่ 25 เมษายนที่จะถึงนี้
โดยมัสก์ได้กล่าวหาว่า Microsoft มีการ “ฝึกฝนโดยใช้ข้อมูลของ Twitter อย่างผิดกฎหมาย” ซึ่งบอกเป็นนัยว่า Microsoft ได้มีการล้วงข้อมูลจากทวีตของผู้ใช้ Twitter เพื่อนำไปช่วยฝึกฝนแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ของตน นอกจากนี้ มัสก์ยังได้กล่าวหาว่า Microsoft กำลัง "ทำลายมูลค่า" ข้อมูลของ Twitter ด้วยการนำโฆษณาออกและ "ขายข้อมูลของเราให้กับผู้อื่น"
Microsoft ไม่ได้ให้เหตุผลว่าเพราะเหตุใดจึงยุติการรองรับ Twitter บนแพลตฟอร์มของตน แต่มีการคาดการณ์ว่า น่าจะเป็นเพราะค่าธรรมเนียมสำหรับการเข้าถึงส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์ (Application Programming Interface: API) ของ Twitter ที่พุ่งสูงขึ้นมาก โดยนิตยสาร Wired รายงานในเดือนมีนาคมว่า ค่าธรรมเนียม API ของ Twitter นั้นเพิ่มขึ้นจาก 0 ดอลลาร์สหรัฐเป็น 42,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน และในบางกรณีอาจพุ่งสูงกว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนเลยทีเดียว
การตัดสินใจยุติการรองรับ Twitter ของ Microsoft นั้นหมายความว่า ลูกค้าของ Microsoft จะไม่สามารถเข้าถึงบัญชี Twitter ของตนผ่านเครื่องมือของ Microsoft ได้ และจะไม่สามารถสร้าง จัดการ ดู และตั้งเวลาการทวีตได้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม Microsoft ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ของตนว่า ลูกค้ายังสามารถเข้าถึงบัญชี Facebook, Instagram และ LinkedIn ของตนได้เช่นเดิม
การตัดสินใจดังกล่าวของ Microsoft เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ Twitter ได้ยุติการอนุญาตให้เข้าถึง API ของตนสำหรับเวอร์ชัน 1.1 และ 2 ได้ฟรี ซึ่งการที่ Twitter เริ่มเก็บค่าใช้บริการ API ก็ได้ส่งผลต่อเหล่านักวิชาการด้วยเช่นกัน โดยมีเอกสารทางวิชาการมากกว่า 17,500 ฉบับที่อ้างอิงข้อมูลจาก Twitter นับตั้งแต่ปี 2020 กระนั้นก็ดี ปัจจุบันนี้นักวิชาการจะต้องเสียค่าธรรมเนียมอย่างต่ำ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนเพื่อเข้าถึงข้อมูลของ Twitter
นอกจากนี้ มีรายงานว่า ในตอนนี้ Microsoft กำลังพัฒนาชิป AI ของตนเองสำหรับใช้ขับเคลื่อนโปรแกรมแชตบอต ChatGPT เพื่อรับมือกับต้นทุนการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นสำหรับโครงการภายในองค์กรและโครงการของบริษัทด้าน AI อย่าง OpenAI