Shoba Pillay ผู้ตรวจสอบอิสระในคดีการล้มละลายของผู้ให้บริการกู้ยืมสกุลเงินคริปโตอย่าง Celsius เผยในรายงานความคืบหน้าคดีที่ยื่นให้กับศาลล้มละลายสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ว่า ผลิตภัณฑ์บัญชีแบบ Custody ของ Celsius เปิดตัวมาในวันที่ 15 เมษายน 2565 โดยที่ “ไม่มีเงินในบัญชีและการควบคุมการปฏิการหรือโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิคที่เพียงพอ” ซึ่งทำให้บริษัทสามารถนำเงินส่วนอื่นมาทดแทนเงินส่วนที่ขาดในบัญชีประเภทดังกล่าวได้
โดยบัญชี Custody เป็นบัญชีที่ให้ผู้ใช้สามารถนำสินทรัพย์ไปโอน แลกเปลี่ยน หรือใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ได้ ซึ่งทางบริษัทสร้างขึ้นมาตามคำสั่งของหน่วยงานทางการในสหรัฐฯ เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์รับดอกเบี้ยอย่าง Earn
นอกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว รายงานความคืบหน้าของ Pillay ยังเผยถึงการบริหารที่ผิดพลาดหลายอย่างของบริษัท เช่น การที่ทางบริษัทไม่พยายามแยกสินทรัพย์ที่อยู่ในบัญชีแบบ Withhold (บัญชีสำหรับผู้ใช้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ในรัฐที่ Celsius ไม่สามารถให้บริการบัญชีแบบ Custody ได้) ที่ถูกนำไปปนกับสินทรัพย์ในบัญชีประเภทอื่น ๆ ให้ชัดเจน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนว่าสินทรัพย์ส่วนไหนเป็นของผู้ใช้ ณ ช่วงที่ยื่นล้มละลาย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ทางบริษัทไม่ได้ติดตามงบดุลของตัวเองนับตั้งแต่ก่อตั้งมาในปี 2560 แต่เพิ่งมาเริ่มติดตามในช่วงกลางปี 2564 อีกด้วย
รายงานของ Pillay ยังเปิดเผยถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Celsius ต้องเริ่มระงับการถอนสินทรัพย์ออกจากแพลตฟอร์มของตนเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2565 อีกด้วย ซึ่งก็คือ การที่หนึ่งวันก่อนหน้านั้น บริษัทมีเงินในบัญชี Custody ของผู้ใช้เหลือน้อยกว่าเงินที่ผู้ใช้นำมาฝาก โดยต่อมาในวันที่ 24 ในเดือนเดียวกันนั้น เงินในบัญชีดังกล่าวก็ลดลงไปอยู่จุดที่ต่ำกว่าจำนวนเงินที่ผู้ใช้นำมาฝาก 24% คิดเป็นเงินส่วนที่ขาด 50.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเปิดเผยดังกล่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ศาลล้มละลายระบุเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ว่า ผู้ใช้ Celsius ต้องยื่นเรียกร้องสินทรัพย์ของตนกับทางบริษัทภายในวันที่ 3 มกราคม 2566 เพื่อที่จะมีสิทธิ์รับส่วนแบ่งจากสินทรัพย์ที่อายัดมาเพื่อกระจายคืนให้กับเจ้าหนี้ได้ แต่ผู้ที่เห็นด้วยกับแผนการชดใช้หนี้ของ Celsius ก็ไม่จำเป็นต้องยื่นคำเรียกร้องใด ๆ