นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2566 เป็นต้นมา มูลค่าของสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโตก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด นำมาโดยหุ้น COIN ของแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตในสหรัฐฯ อย่าง Coinbase และหุ้น MSTR ของบริษัทผู้ให้บริการซอฟต์แวร์วิเคราะห์ธุรกิจอย่าง MicroStrategy ที่มีผู้หลงไหลในบิตคอยน์อย่าง Michael Saylor นั่งตำแหน่งประธานบริหาร 

ราคาของ COIN นั้นเพิ่มขึ้นมาเกือบ 60% จากจุดต่ำสุดตลอดกาล โดยเพิ่มจาก 31.59 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 6 มกราคม 2566 มาอยู่ที่ 54.14 ดอลลาร์ ณ เวลาที่ตลาดปิดในวันที่ 17 มกราคม (ข้อมูลราคาจากเว็บไซต์ Yahoo Finance) ซึ่งการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นดังกล่าวน่าจะมาพร้อมกับการที่ Coinbase ได้ฟื้นตัวหลังจากสถานกาณ์ตลาดคริปโตในปี 2565 ทำให้ทางบริษัทจำเป็นต้องประกาศลดจำนวนพนักงาน 20% และเริ่มทยอยปิดบริการในประเทศญี่ปุ่นไปเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา

ในขณะที่ MSTR ก็มีราคาเพิ่มขึ้นสูงเช่นกัน โดยขยับจากราคาราว ๆ 135 ดอลลาร์ในวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ขึ้นมาอยู่ที่ราคาเกือบ 236 ดอลลาร์ในวันที่ 17 มกราคม 2566 คิดเป็นการเพิ่มขึ้นมามากกว่า 75% เลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น หุ้นของบริษัทขุดคริปโตอย่าง Bitfarms และ Marathon Digital Holdings ก็มีราคาเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก โดยเพิ่มขึ้นมา 140% และ 120% ตามลำดับในช่วง 2 สัปดาห์แรกของปีนี้

นอกจากนี้ หุ้น SQ ของบริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มชำระเงินดิจิทัลอย่าง Block ที่มีผู้ที่ชื่นชอบในคริปโตอย่าง Jack Dorsey เป็นผู้บริหารสูงสุด ก็มีราคาเพิ่มขึ้นมา 27% จากราว ๆ 59 ดอลลาร์ในวันที่ 28 ธันวาคมมาอยู่ที่ราว ๆ 75 ดอลลาร์ในวันที่ 17 มกราคม 

ไม่เพียงเท่านั้น กองทุนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Exchange-Traded Fund: ETF) อย่าง Valkyrie Bitcoin Miners ETF (WGMI) และ ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) รวมถึงกองทรัสต์บิตคอยน์อย่าง Grayscale Bitcoin Trust ต่างก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้นมาราว ๆ 50%, 33% และ 51% ตามลำดับในกรอบเวลาเดียวกันอีกด้วย