Chartered Institute of Personnel Development (CIPD) สถาบันด้านการพัฒนาบุคลากรในอังกฤษ ได้เผยแพร่ผลสำรวจที่จัดทำขึ้นด้วยการสอบถามนายจ้าง 2,012 ราย โดย CIPD พบว่า นายจ้างในอังกฤษ 55% เตรียมขึ้นค่าจ้างให้กับพนักงานในปีนี้ เนื่องจากพวกเขาประสบปัญหาด้านการจ้างงานและต้องการที่จะรักษาพนักงานเดิมเอาไว้ในสภาวะตลาดแรงงานอังกฤษที่ตึงตัว 

นอกจากนี้ CIPD ยังพบอีกว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเกินครึ่งมีปัญหาในการจัดหาพนักงานเข้าทำงานในตำแหน่งที่ว่าง และเกือบ 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามนั้นคาดว่า พวกเขาจะประสบปัญหาที่คล้ายกันนี้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า  

อีกทั้งค่ามัธยฐานของอัตราการขึ้นค่าจ้างรายปีที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 11 ปีนับตั้งแต่ CIPD เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2555 ถึงกระนั้น การขึ้นค่าจ้าง 5% ดังกล่าวยังคงต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับ 10.5% ในเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาอยู่มาก 

โดย Andrew Bailey ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England: BoE) ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มค่าจ้างดังกล่าว ถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มส่งสัญญาณกลับตัวแล้วหลังขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปีที่ 11.1% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ตาม ซึ่ง BoE ก็ยังคงมองแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อเป็นเรื่องน่ากังวลแม้ว่าตนจะเพิ่งประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอยู่ที่จุดสูงสุดในรอบ 15 ปีในเดือนนี้

นอกจากนี้ Jon Boys นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านตลาดแรงงานของ CIPD กล่าวว่า “ทักษะและแรงงานยังคงขาดแคลนแม้ว่าตลาดแรงงานยังคงลอยตัวอย่างน่าประหลาดใจเมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อและวิกฤตค่าครองชีพที่เกี่ยวข้องที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น” 

ผลสำรวจดังกล่าวยังเผยให้เห็นว่า การเพิ่มค่าจ้างของภาครัฐกับเอกชนนั้นแตกต่างกันมาก โดยตัวเลขการคาดการณ์ของอัตราการเพิ่มค่าจ้างในภาครัฐนั้นลดลงเหลือ 2% จาก 3% ในไตรมาสก่อนเมื่อเทียบกับของภาคเอกชนซึ่งอยู่ที่ 5% แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยที่ผ่านมาก็มีแรงงาน เช่น พยาบาล, ครู และพนักงานขนส่งสาธารณะ ออกมาประท้วงเรื่องค่าแรงและสภาพแวดล้อมการทำงานอีกด้วย