สหพันธ์การธนาคารยุโรป (European Banking Federation: EBF) ซึ่งเป็นตัวแทนของภาคธนาคารในทวีปยุโรป ได้เผยแพร่เอกสารฉบับหนึ่งออกมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2023 ซึ่งเป็นการนำเสนอวิสัยทัศน์ของ EBF เกี่ยวกับระบบนิเวศของสกุลเงินดิจิทัลแห่งอนาคตซึ่งประกอบไปด้วยสกุลเงินยูโรดิจิทัลสำหรับย่อย, สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) สำหรับใช้ระหว่างสถาบันการเงินหรือ Wholesale CBDC และโทเคนสกุลเงินที่ออกโดยธนาคาร

โดยเอกสารฉบับดังกล่าวได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณค่าและความกังวลเกี่ยวกับสกุลเงินยูโรดิจิทัลผ่านมุมมองของธนาคารพาณิชย์ พร้อมทั้งยังเน้นย้ำค่านิยมต่าง ๆ ของธนาคารเหล่านั้นอย่างเช่นเสถียรภาพและความเป็นส่วนตัวด้วย

EBF เรียกร้องให้ภาคเอกชนและภาครัฐร่วมมือกันมากขึ้นในการออกสกุลเงินยูโรดิจิทัล เนื่องจากทุกวันนี้ยังไม่มีการหารือเพื่อหาทางรับมือกับความเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานและความเสี่ยงต่อระบบการเงินแต่อย่างใด ในทำนองเดียวกัน EBF กล่าวว่า จำเป็นจะต้องมีการสร้างกรอบงานสำหรับการมีส่วนร่วมระดับสูงแบบถาวรขึ้นมาด้วย โดยวิสัยทัศน์ระบบนิเวศสกุลเงินดิจิทัลของ EBF มีการเน้นย้ำเกี่ยวกับบทบาทของภาคเอกชนในทุกแง่มุม ซึ่งเริ่มตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานที่ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปจำเป็นต้องลดการพึ่งพาผู้เล่นจากนอกทวีป

พร้อมกันนี้ EBF ยังระบุอีกว่า แผนการพัฒนาสกุลเงินยูโรดิจิทัลจะประกอบด้วย 3 ระดับด้วยกัน ได้แก่ 

  1. ระดับธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank: ECB): ระดับแผนการนี้ควรจะกำหนดแง่มุมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออก ความสามารถในการแปลง และการบำรุงรักษาสกุลเงินยูโรดิจิทัล รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อสร้างมาตรฐานให้กับประเด็นสำคัญบางอย่าง เช่น มาตรการการต่อต้านการฟอกเงิน ด้วย
  2. ระดับอุตสาหกรรม A: กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการชำระเงินและประเด็นที่เกี่ยวข้องทั้งหมดควรจะเป็นแผนการที่นำโดยอุตสาหกรรมพร้อมกับการเปิดโอกาสให้ ECB/ หน่วยงานด้านการเงินของยูโรโซนอย่าง Eurosystem (หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ) เข้ามามีส่วนร่วมด้วย
  3. ระดับอุตสาหกรรม B: ภาคเอกชนควรจะสามารถคิดค้นและสร้างเครื่องมือชำระเงินที่มาพร้อมกับบริการที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและทันสมัย โดยบทบาทของระดับแผนการนี้ควรจะเป็นการกำหนดกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อรับรองความสามารถในการทำงานร่วมกันของระบบชำระเงินต่าง ๆ ที่จะถูกพัฒนาและดำเนินการโดยภาคเอกชนในภายหลังตามหลักเกณฑ์ของระดับแผนการก่อนหน้าทั้ง 2 ระดับ

ไม่เพียงเท่านั้น เอกสารฉบับดังกล่าวยังมีความระมัดระวังในการกล่าวถึงเทคโนโลยีบล็อกเชนด้วยโดยการอธิบายส่วนประกอบเพียงบางอย่างของวิสัยทัศน์ระบบนิเวศสกุลเงินดิจิทัลของ EBF โดยเป็นที่เข้าใจกันว่า Wholesale CBDC ที่มีความสามารถในการทำงานร่วมกันได้เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เกิดการทำธุรกรรมข้ามประเทศนั้นทำงานอยู่บนเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology: DLT) 

ยิ่งไปกว่านั้น โทเคนของธนาคารยังมีบทบาทสำคัญในวิสัยทัศน์ระบบนิเวศสกุลเงินดิจิทัลของ EBF ด้วยเช่นกัน ซึ่งเอกสารฉบับดังกล่าวชี้ว่า ความต้องการสำหรับการชำระเงินของธุรกิจต่าง ๆ จะเริ่มเปลี่ยนไปในอนาคต และธุรกิจบางอย่างยังมีความต้องการที่จะหันไปใช้กระบวนการทางอุตสาหกรรมแบบอัตโนมัติที่ทำงานอยู่บน DLT และใช้สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ด้วย ด้วยเหตุนี้ ธนาคารบางแห่งจึงเริ่มพัฒนาระบบชำระเงินที่สามารถทำงานร่วมกับกระบวนการทางอุตสาหกรรมเหล่านั้นได้อย่างลื่นไหล อย่างไรก็ตาม EBF ระบุว่า ตลาดจำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานสำหรับระบบชำระเงินเหล่านี้