เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ตามเวลาประเทศไทย ราคาทองคำได้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนแล้ว โดยทองคำ Spot เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 1,855.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเคลื่อนไหวที่ราว 1,860.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากรายงานการประชุมในเดือนธันวาคมของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve: FED) ชี้ให้เห็นว่า ผู้กำหนดนโยบายทางการเงินมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะสนับสนุนให้มีการขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ช้าลงกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวก็เป็นการสร้างแรงกดดันให้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทำให้หลายคนเชื่อว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว และมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงอีกในเดือนต่อ ๆ ไป

ยิ่งไปกว่านั้น ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการในการครอบครองสินทรัพย์หลบภัยที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ได้ออกมาเตือนว่า เหล่าประเทศมหาอำนาจของโลกอาจจะประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในปีนี้ 

ไม่เพียงเท่านั้น รายงานดังกล่าวก็ยังแสดงให้เห็นว่า ผู้กำหนดนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการลดอัตราเงินเฟ้อเป็นอย่างยิ่ง และจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีกนาน ด้วยเหตุนี้ ตลาดแร่โลหะจึงมีโอกาสที่จะได้รับแรงกดดันด้วย

ถึงกระนั้น ก็ดูเหมือนว่าจะมีเพียงแค่ทองคำเท่านั้นที่ทำผลงานได้ดี ขณะที่ตลาดแร่โลหะโดยรวมนั้นกลับร่วงลงเป็นวงกว้างท่ามกลางกระแสข่าวเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ตัวอย่างเช่น สัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าดิ่งลง 0.1% มาอยู่ที่ราว 3.7412 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ขณะที่ราคานิกเกิลร่วงลง 6% นอกจากนี้ ยังมีแร่โละมีค่าอื่น ๆ ที่ดิ่งลงเช่นกัน เช่น ทองคำขาวและเงิน