กระทรวงการคลังของประเทศญี่ปุ่นประกาศรับพนักงานเพิ่ม ตั้งเป้าพัฒนากฎสากลสำหรับสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะสกุลเงิน Stablecoin

ญี่ปุ่นเริ่มออกมาตรการควบคุมสกุลเงินดิจิทัลในระดับสากล โดยมีรายงานว่าหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมีการประกาศรับสมัครพนักงาน เพื่อทำหน้าที่ในการออกข้อกำหนดต่าง ๆ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลให้เข้มงวดมากขึ้น

รายงานจากวันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม แจ้งว่าหน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่นแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะสกุลเงินดิจิทัลประเภท Stablecoin

มหานครโตเกียวแสดงออกอย่างชัดเจนว่าพร้อมที่จะร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินระดับสากล ในการที่จะพัฒนากฎเกณฑ์และข้อบังคับเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลส่วนบุคคลให้เข้มงวดขึ้น มีรายงานจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน 3 รายว่า กลุ่มผู้กำกับดูแลทางการเงิน G7 (The Group of Seven) และ G20 (The Group of Twenty) ได้เรียกร้องให้ออกกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับ Stablecoin

หนึ่งในเจ้าหน้าที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ญี่ปุ่น ไม่สามารถที่จะปล่อยผ่านการเติบโตอย่างรวดเร็วของสกุลเงินดิจิทัลในระดับสากลได้อีกต่อไป ”

มีรายงานว่ากระทรวงการคลังของประเทศญี่ปุ่น (The Japanese Ministry of Finance) ได้พิจารณาให้มีการเพิ่มจำนวนพนักงาน โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะออกกฎระเบียบในการตรวจสอบอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก สำนักงานบริการทางการเงิน (Financial Services Agency : FSA) ของประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศว่าหน่วยงานได้จัดตั้งแผนกพิเศษขึ้นเพื่อดูแลการออกกฎเกณฑ์สำหรับสกุลเงินดิจิทัลโดยเฉพาะ

เจ้าหน้าที่ของสำนักงานบริการทางการเงินแจ้งว่า แผนกดังกล่าวถูกจัดตั้งขึ้นในวันที่ 8 กรกฎาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อสังเกตการณ์ตลาดสกุลเงินดิจิทัลอย่างทั่วถึง และให้ความสนใจกับการเงินแบบไร้ตัวกลาง (DeFi) ซึ่งเป็นรูปแบบของการเงินชนิดหนึ่งที่ไม่ต้องอาศัยการเงินแบบผ่านตัวกลาง (Centralized Financial) โดยมีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยี Blockchain

ข่าวสารที่เกิดขึ้นในแวดวงสกุลเงินดิจิทัลทำให้หน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ เริ่มให้ความสนใจกับแวดวงสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น หลาย ๆ หน่วยงานเริ่มแสดงความกังวลต่อสกุลเงินดิจิทัลประเภท Stablecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกกับทรัพย์สินหรือสกุลเงินทั่วไป (Fiat Currency) เช่น สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น ธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลกผลักดันสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) เพื่อรักษาอำนาจของสกุลเงินแห่งชาติไว้

Jerome Powell ประธานธนาคารกลางของประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. Federal Reserve) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาจะช่วยลดความต้องการสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เช่น บิตคอยน์ และ Stablecoin ลงได้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Fan Yifei รองผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศจีน ได้แสดงความเห็นว่าการพัฒนาอย่างรวดเร็วของระบบชำระเงินส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก และย้ำเตือนว่า Stablecoin อาจเป็นต้นเหตุของภัยคุกคามต่อระบบการเงินและการชำระหนี้ระดับสากลได้