เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2023 หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ ได้สั่งปิดธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทสตาร์ตอัป เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นความล้มเหลวของธนาคารครั้งใหญ่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์อเมริกา ซึ่ง 2 วันก่อนหน้าที่ SVB จะปิดตัว ธนาคารที่เป็นมิตรต่อคริปโตอย่าง Silvergate Bank ก็ได้ประกาศว่าจะยุติกิจการลงเช่นเดียวกัน และเมื่อวันที่ 12 มีนาคม หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ ได้สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนอีกครั้งด้วยการประกาศปิดตัวธนาคาร Signature Bank ธนาคารที่เป็นมิตรกับบริษัทคริปโตในมหานครนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ได้ให้คำมั่นว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงการล่มสลายของระบบธนาคารทั้งหมด

วิกฤตธนาคารยังลุกลามไปถึงยุโรปด้วย โดย Credit Suisse ธนาคารเก่าแก่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก ส่งผลให้รัฐบาลสวิสบังคับให้ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์อย่าง Union Bank of Switzerland (UBS) เข้าซื้อ Credit Suisse อย่างเร่งด่วนด้วยเงินเพียงจำนวน 3.24 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น 

ในขณะที่หน่วยงานต่าง ๆ กำลังพยายามแก้ไขวิกฤตธนาคารในปัจจุบัน อีลอน มัสก์ นักลงทุนมหาเศรษฐีก็ได้ออกมาเตือนถึงอีกหนึ่งปัญหาที่แฝงตัวอยู่ในระบบการเงินและเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งก็คือ หนี้อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และสินเชื่อบ้าน 

The Kobeissi Letter บทวิจารณ์ชั้นนำของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับตลาดทุนทั่วโลก ได้ทวีตข้อมูลที่น่าตกใจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ผ่านทาง Twitter ว่า “ในอีก 5 ปีข้างหน้า หนี้อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์มูลค่ามากกว่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์จะครบกำหนดชำระ…นี่เป็นมูลค่าที่มากกว่าระยะเวลา 5 ปีใด ๆ ที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ ในขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว และมีอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เพียง 60-70% เท่านั้นที่ถูกครอบครอง”

นอกจากนี้ Kobeissi ได้ระบุต่อไปว่า “การรีไฟแนนซ์เงินกู้เหล่านี้จะมีราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ และมีแนวโน้มว่าจะนำไปสู่วิกฤตครั้งใหญ่ครั้งต่อไป” อีกทั้งยังเสริมว่า ส่วนที่แย่ที่สุดคือ 70% ของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เป็นของธนาคารขนาดเล็ก ซึ่งอีลอน มัสก์ เห็นด้วยกับข้อความดังกล่าวและได้ตอบกลับว่า “นี่เป็นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดที่กำลังคืบคลานเข้ามา สินเชื่อบ้านก็เช่นกัน”

อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้การชำระเงินกู้เกือบทั้งหมดมีราคาแพงขึ้น ซึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ผู้กู้จำนวนมากที่มีอัตราดอกเบี้ยผันแปรก็เริ่มมีค่าผ่อนจ่ายรายเดือนเพิ่มขึ้นแล้ว หากต้องการชำระเงินกู้ต่อไปพวกเขาต้องใช้ประโยชน์จากกระแสเงินสดของตน ส่วนผู้กู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเมื่อพวกเขาต้องรีไฟแนนซ์