เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา Visa บริษัทด้านการชำระเงินยักษ์ใหญ่ ได้เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของทางบริษัทว่า ทีมผู้นำความคิดด้านคริปโตของบริษัทได้คิดค้นผลิตภัณฑ์อันหนึ่งขึ้นมาซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถดึงเงินจากกระเป๋าเงินคริปโตที่อยู่บนบล็อกเชน Ethereum ของผู้ใช้บริการได้โดยอัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องรับรองธุรกรรมด้วยตนเองแต่อย่างใด

นวัตกรรมดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากการชำระค่าบริการแบบอัตโนมัติที่มีอยู่ในระบบการธนาคารแบบดั้งเดิมซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตให้ผู้ให้บริการรายใดบ้างสามารถดึงเงินออกจากบัญชีธนาคารของตนเพื่อชำระค่าบริการต่าง ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น การชำระค่าบริการของแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่าง Netflix หรือการชำระค่าโทรศัพท์และค่าไฟ 

Visa เผยว่า ผู้ใช้กระเป๋าเงินคริปโตแบบดูแลด้วยตัวเองจะไม่สามารถชำระเงินด้วยคริปโตโดยอัตโนมัติเฉกเช่นเจ้าของบัญชีธนาคารในระบบการเงินแบบดั้งเดิมได้ พร้อมกับเสริมว่า การชำระเงินแบบกำหนดเงื่อนไขโดยอัตโนมัตินั้นจำเป็นต้องมี “งานด้านวิศวกรรม” เข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากกุญแจส่วนตัวที่ใช้เซ็นรับรองธุรกรรมนั้นจะอยู่ในการครอบครองของผู้ใช้กระเป๋าเงินคริปโตแบบดูแลด้วยตัวเองเพียงคนเดียว ทำให้สัญญาอัจฉริยะมิอาจดำเนินธุรกรรมได้ เนื่องจากผู้ใช้จะต้องรับรองธุรกรรมด้วยตัวเองเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม Visa กล่าวในหนังสือเทคนิคว่า การชำระเงินด้วยคริปโตตามเวลาที่กำหนดโดยอัตโนมัติจะเกิดขึ้นได้ด้วยการใช้กระเป๋าเงินคริปโตแบบดูแลด้วยตัวเองประเภทใหม่ที่เรียกว่า “Delegable Account” ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินคริปโตแบบดูแลด้วยตัวเองที่สร้างขึ้นโดยอิงจากแนวคิด “Account Abstraction (AA)” โดยแนวคิดดังกล่าวได้รับการเสนอโดย Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้งบล็อกเชน Ethereum ในปี 2558 ซึ่งเป็นการนำกระเป๋าเงินคริปโตบนบล็อกเชน Ethereum และสัญญาอัจฉริยะมารวมเข้าด้วยกันให้เป็นบัญชีเดียว

โดย Visa กล่าวว่า การใช้งาน Delegable Account จะทำให้บัญชีของผู้ใช้ “ทำงานเหมือนสัญญาอัจฉริยะ” กล่าวคือ ผู้ใช้จะสามารถกำหนดเวลาการทำธุรกรรมของตนได้โดยไม่ต้องเซ็นยืนยันธุรกรรมทุกรายการอีกต่อไป อีกทั้งยังเสริมว่า “การใช้งานนี้อาจจะทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าคำสั่งการชำระเงินแบบกำหนดเงื่อนไขได้ ซึ่งสามารถดึงเงินจากบัญชีกระเป๋าเงินคริปโตแบบดูแลด้วยตัวเองใบหนึ่งไปใส่ในบัญชีของกระเป๋าเงินอีกใบได้โดยอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอในแต่ละครั้ง”

Visa เปิดเผยว่า ณ ตอนนี้ ทีมงานของบริษัทได้ประสบความสำเร็จในการทดสอบ Delegable Account บนบล็อกเชนส่วนตัวจากเครือข่ายบล็อกเชน StarkNet ซึ่งเป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 2 บนบล็อกเชน Ethereum เรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนี้ การชำระเงินด้วยคริปโตแบบอัตโนมัติจึงไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม